วันอังคารที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2553

8 สุดยอดวิธีการทำเงินออนไลน์ในยุคดิจิตอล

วิธีหาเงินออนไลน์ บนโลกไซเบอร์นี้ที่ได้จริงๆ และถูกต้องแน่นอน ว่าคนที่รวยด้วยอินเตอร์เน็ต หรือ หาเงินทางเน็ต เขาทำกันอย่างไรรับรองไม่ใช่พวกขายตรงแน่นอนครับ มีระดับตั้งแต่เดือนละ $1,000 ถึงระดับมืออาชีพคือ หลายแสนดอลล่าร์ต่อเดือน ....มาศึกษาวิธีที่ถูกต้องกันดีกว่า เพื่อจะได้ใช้เวลาที่เล่นเน็ตให้เกิดประโยชน์ครับ


1. สร้างเว็บไซต์ขึ้นมาแล้วก็โปรโมตให้ดังกระฉ่อน อย่างเช่น http://siammoney.net นี่ไงล่ะครับ-: เมื่อดังแล้วเงินก็มาเอง โดยที่นั่ง ๆ นอน ๆ ทำงานวันละไม่กี่ชั่วโมง แต่แน่นอน ไม่มีอะไรที่ได้มาง่ายๆ ช่วงแรกจะเหนื่อยมากถึงมากที่สุดกว่าเว็บไซต์จะดัง ก็มีรายได้จากโฆษณาเดือนระดับหลักหมื่นบาท วิธีนี้มีเทคนิคที่สามารถสร้าง traffic (คนเข้าเว็บไซต์) ให้เว็บไซต์ดังได้ และมีคนเข้าอย่างน้อยระดับ 1,000 คนถึงหลายพันคนต่อวัน ภายใน 2 เดือน เทคนิคนี้มือโปรมากๆเขามักจะรู้กัน

2. สร้างเว็บไซต์ e-commerce สามารถทำได้ทั้งระดับประเทศและระดับสากล ระดับประเทศทำให้สำเร็จง่ายมาก ใช้เวลาทำเดือนสองเดือนก็สร้างยอดขายอัตโนมัติทุกเดือนได้เลยเ(พราะมีการแข่งขันน้อยมาก) จนถึงใช้เวลาทำนานเป็นปีถ้าต้องเปิดตลาดใหม่เพื่อแนะนำสินค้าบริการอันใหม่ให้รู้จักกันทั่วถึง ระดับสากลจะทำยากกว่าแต่ตลาดจะใหญ่มาก รายได้จะมหาศาล รายได้ระดับประเทศก็จะหลายหมื่นถึงหลายแสน ที่ผมเห็นคนไทยทำโดยทั่วไป ส่วนรายได้ระดับสากลระดับห้าแสนถึงหลายสิบล้านต่อเดือน เวลาทำตอนแรกจะต้องเหนื่อยมาก ก่อนที่จะสบายตอนหลังเมื่อระบบการตลาดมันเดินด้วยตัวของมันเอง case study ระดับประเทศเช่น เว็บขายถุงยาง, เว็บชุดชั้นในวาบหวิว ฯลฯ case study ระดับสากลเช่น thaigem, เว็บขายอุปกรณ์มวยไทย ฯลฯ

3. ทำ Ebay หรือ Auction อันนี้มีตัวอย่างความสำเร็จมากมายของคนไทย เป็น power seller กันแยะ ข้อมูลไปดูที่ รายได้ระดับ 40,000 - หลายแสน อาจถึงระดับล้าน(เป็นบางคนนะครับ) ช่วงต้นก็ต้องลำบากมากๆๆๆ เหมือนเคยเพราะต้องทดลองตลาดที่ขายได้จนเจอ(เสีย cost ไปไม่น้อย) ก่อนที่จะสบาย คือเมื่อจับตลาดสินค้าได้แล้ว ก็เป็นแหล่งทองที่สามารถขุดได้เรื่อย ๆ ไปอีกนานเลยทีเดียว

4. ทำ Affiliate program ทั้งด้วยเว็บไซต์และ google adwords รายได้ตรงนี้มีตั้งแต่ระดับ 1,000 ดอลล่าร์ ถึง หลายแสนดอลล่าร์(พวกโครตเซียน ส่วนมากจะเป็นฝรั่ง) affiliate program คือ การหารายได้โดยการที่เป็นตัวแทนไปตกลงกับเจ้าของสินค้าว่าจะแนะนำลูกค้าให้ โดยการทำ link ไปยังเว็บไซต์ของเขา ลูกค้าจะถูก track ด้วย cookie เป็นระยะเวลาช่วงหนึ่ง ๆ (แล้วแต่เงื่อนไขของบริษัทเขา)ถ้าลูกค้าซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์ ก็จะได้ค่าคอมมิชชั่นตามที่ตกลงไว้ ตัวอย่างสินค้าที่คุณสามารถเลือกโปรโมตได้มีตั้งแต่สากะเบือยันเรือรบ เป็นสินค้าบริษัทยักษ์ใหญ่มากมายเท่าที่คุณจะนึกออก เช่น ebay, dell, morgan stanley,amazon,adwords ฯลฯ รายละเอียดต่าง ๆ มีมากมาย มีคนสร้างรายได้ด้วยวิธีนี้กันหลายแสนคนทั่วโลก มีระบบการทำและให้คำแนะนำกันมากมาย และแน่นอนทำไม่ง่ายอีกเช่นเคย จะว่าไปถึงขั้นให้สำเร็จยากเลยล่ะ แต่ถ้าทำสำเร็จเมื่อไร รายได้ที่ได้จะ automatic อย่างมากมายทันทีแม้คุณจะนั่งกินนอนกินทั้งปีก็ตาม

5. ทำ Google adsense คือการเข้าร่วมการโฆษณาของกูเกิ้ลในเว็บไซต์ของคุณ โดยที่คุณยอมเสียพื้นที่โฆษณาของคุณให้กูเกิ้ลลง คุณจะได้รายได้เมื่อมีคนคลิ๊ก (ทำได้เฉพาะเว็บภาษาอังกฤษ) โดย google จะเป็นคนจ่ายให้คุณ วิธีนี้มีคนนับล้านคนหารายได้เสริมจากทางนี้ พวกเซียน ๆ (ที่ไม่ใช่บริษัทใหญ่ ๆ แต่เป็นคนทั่วไปแบบเรานี่ล่ะ)มีรายได้สบาย ๆ จากทางนี้ขั้นต่ำเดือนละ 1,000 ดอลล่าร์ถึงหลายหมื่นดอลล่าร์ กันหลายคน วิธีการสร้างเว็บเป็นภาษาอังกฤษเหมือนจะยุ่งยาก แต่มันก็มีเทคนิคการสร้างเช่นกัน ให้เสร็จภายในระยะเวลาไม่นาน โดยมีเนื้อหานับร้อย ๆ หน้า หรือจะไปซื้อจาก ebay ก็มีขายเยอะแยะ แต่ที่ยากคือการโปรโมตให้คนเข้ามาเยอะ ๆ แต่พวกเซียน ๆ ก็มีสารพัดเทคนิคทำสำเร็จภายในไม่กี่เดือน แต่ก็เหมือนเดิม ต้องเหนื่อยมาก ๆ ค่อนข้างยากในตอนแรก ลองดูตัวอย่างได้ที่ http://puritech.blogspot.com/

6. รายได้จาก domain seller จะมีพวกเซียนที่ทำการจดโดเมนสวย ๆ มาขายต่อในราคาแพง พวกนี้เก่งจริง ๆ แล้วมีประสบการณ์ในการรู้มูลค่าของชื่อได้ดี และรู้ระบบการตลาดในการขายที่เยี่ยมยอด ที่ผมเห็นหลายรายจดโดเมนมา $10 ขายต่อไปในราคา $100 – หลายพันดอลล่าร์ บางชื่อระดับหมื่นดอลล่าร์ (อย่างเว็บ Thailand.com ซื้อมาในราคาร้อยล้านบาท) คนที่ทำกันจริงจังมีโดเมนอยู่ในมือนับหลายร้อยชื่อเลยทีเดียว แต่ต้องมีประสบการณ์ไม่งั้นก็อาจเจ๊งได้ง่าย ๆ เช่นกันเพราะต้นทุนเยอะ

7. รายได้จาก parking domain พวกนี้จะไปจดโดเมนดัง ๆ ที่หมดอายุแล้วเจ้าของไม่ต่อ แล้วเอาไป parking คือฝาก dns ไว้ที่ sedo.com เวลามีคนเข้าเว็บมาก็จะเจอหน้า parking ที่มีโฆษณา แล้วก็ได้รายได้เป็น pay per click พวกเซียน ๆ จะมีเป็นร้อยโดเมนเลยทีเดียว สร้างรายได้ให้เขาระดับนับหมื่นดอลล่าร์ต่อเดือนสบาย ๆ โดยวัน ๆ ไม่ต้องทำอะไร และแน่นอนมันก็ไม่ง่ายอีกเช่นกัน แม้แต่ละวันจะมีโดเมนที่หมดอายุนับหมื่นชื่อทุกวัน แต่ก็มีคนพวกนี้ที่มีเครื่องมือชั้นยอดคอยจ้องฉกเว็บชิ้นปลามันไปกินมากมาย

8. รายได้จากการขาย ebook หรือ software (ส่วนมากจะเป็น ebook) พวกนี้จะเขียน ebook ขึ้นมาเล่มนึง แล้วก็ไปเช่าเว็บโฮส เขียน selling killer ads เป็นโฆษณาแบบ sale letter ที่อ่านแล้ว โอ้โห มันยอดมาก สุดยอดอะไรเช่นนี้ ทำให้อยากซื้อมาก ๆ แล้วก็สามารถจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิตแล้ว download สินค้าได้ทันทีเลย วิธีนี้สำคัญที่ sale letter ads page กับการโปรโมต ถ้าโปรโมต traffic อย่างถูกวิธี พวกเซียน ๆ อีกเช่นเคย ทำมาจนเซียน อยากหาเงินเมื่อไรก็ได้ เพราะเขาบรรลุวิธีการตลาดหมดแล้ว สามารถโปรโมตอีบุ๊คธรรมดาทั่ว ๆ ไปให้มียอดขายได้ไม่ตำกว่า 300-1000 sale download ราคาต่อเล่มประมาณ $30-$100 มีรายได้ต่อเดือนประมาณ $9,000 ถึง 100,000 ดอลล่าร์ เลยทีเดียว

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งในวิธีการสร้างรายได้ทางอินเตอร์เน็ตที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ตอนนี้ในต่างประเทศ ที่ต้องใช้ความรู้ ความพยายาม และยังมีเทคนิคหรือวิธีการอื่นๆ อีกมาก...ถึงเวลาที่จะสนุนคนไทยให้สามารถสร้างรายได้ออนไลน์ ช่วยกันโกยเงินดอลลาร์เข้ามาประเทศของเรา หรือถ้าใครพอจะรู้วิธีอื่นๆก็สามารถนำมาพูดคุยแลกเปลี่ยนกันได้นะครับ

วันพุธที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2553

“โดดเชือก”15 นาที เท่าจ๊อกกิ้งครึ่งชั่วโมง

เล่นได้ไม่จำกัดพื้นที่ เผาผลาญแคลอรีได้เต็มพิกัด เป็นคุณสมบัติเด่นของกีฬา กระโดดเชือก ที่จะขอแนะนำให้คนที่คิดจะออกกำลังแต่ยังติดขัดเรื่องสถานที่กันอยู่ การกระโดดเชือกนั้นสามารถเผาผลาญพลังงานได้ถึงชั่วโมงละ 600 แคลอรีแต่ว่าก่อนจะเริ่มกระโดดเชือกนั้นอย่าลืม "อบอุ่นร่างกาย" เสียก่อน โดยวิธีง่ายๆ เพียงย่ำอยู่กับที่ เดิน หรือกายบริหารสัก 2-3 นาที เพื่อให้กล้ามเนื้อและข้อต่อพร้อมรับการออกกำลังกายที่หนักต่อไป จากนั้นก็ "กระโดด" ๆๆ กันเลยโดดเชือกเป็นกีฬาง่ายๆ แต่ก็ต้องไม่ลืมทำให้ถูกวิธี โดยเริ่มจากการจับด้ามเชือกที่ใกล้กับเชือกมากที่สุด อย่าจับแน่นเกินไป ผ่อนคลายไหล่ แนบข้อศอกกับลำตัว และให้ลำตัวช่วงบนตั้งตรงและนิ่งที่สุด มืออยู่ระดับสะโพก และแกว่งเชือกด้วยแขนช่วงล่างและข้อมือ  ตอนกระโดดก็ควรกระโดดให้สูงเล็กน้อย พอให้เชือกลอดผ่านเท้าไปได้ งอเข่าเล็กน้อยตลอดการกระโดด เพื่อลดแรงกระแทกที่หัวเข่า และข้อเท้าให้น้อยที่สุด

ข้อควรระวังในการกระโดด อย่ากระโดดเร็วจนเกินไป หรือเหม่อลอย อาจทำให้สะดุดกับเชือกและเกิดอุบัติเหตุได้
รศ.ดร.วิชิต คนึงสุขเกษม นายกสมาคมสุขศึกษาพลศึกษา และสันทนาการแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การกระโดดเชือกเป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิก ที่ไม่ต้องใช้พื้นที่มาก และอุปกรณ์น้อย สะดวกต่อการพกพา นอกจากเชือกสำหรับกระโดดแล้วก็มีเพียงชุดกีฬาและรองเท้าเท่านั้นหากกระโดดเชือกติดต่อกัน 15 นาที จะมีผลเสมือนหนึ่งการออกกำลังกายโดยวิ่งจ๊อกกิ้งถึง 30 นาทีเลยทีเดียว
จัดว่าเป็นกีฬาที่น่าสนใจกับการออกกำลังได้ง่ายไม่สิ้นเปลืองเวลาและสถานที่ กระโดดได้ทุกที่แค่มีเชือกเส้นเดียว

พระคาถาอาราธนาพระขึ้นคอทุกเช้า

นะโม (3 จบ)



นะโมพุทธายะ พุทธัง อาราธะนานัง ธัมมัง อาราธะนานัง สังฆัง อาราธะนานัง อะวิสสุนุสสานุตติ นะมะนะอะ นอกอนะกะ กอออนออะ นะอะกะอัง อุทธัง อัทโธ นะโมพุทธายะ นะมะพะธะ จะพะกะสะ พุทธังบังเกิด เปิดโลกพระอะระหัง พุทธังสิทธิ มหาประสิทธิ ธัมมังสิทธิ มหาประสิทธิ สังฆังสิทธิ มหาประสิทธิ

วันอังคารที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

สมุนไพรอันตราย 13 ชนิดที่มีต่อชีวิตการทำงาน

1 ขิง / ข่า  
ขิง(ก็รา) ข่า(ก็แรง) เป็นอันตรายต่อชีวิตการทำงานอย่างยิ่ง บางครั้งเป็นการกระทบกระทั่งด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง เมื่อไม่ยอมกันคนละก้าว ก็เสียทั้งงานและภาพพจน์ขององค์กร
ทางแก้ : การทำงานในสำนักงานไม่ว่าองค์กรราชการหรือเอกชนเป็นการรวมคนจากที่ต่างๆ เข้าด้วยกัน จึงเป็นเรื่องปกติที่มีการกระทบกระทั่งกันระหว่างเพื่อนร่วมงาน รู้จักยอมกันบ้าง ทำนอง 'แพ้เป็นพระ ชนะเป็นมาร' นอกจากจะได้ไม่เสียสุขภาพจิตแล้ว ยังได้ประสิทธิภาพของงานสูง 
2 ขมิ้น (กับปูน) 
ไม่ชอบเพื่อน ไม่ชอบเจ้านาย ไม่ชอบหน้าลูกค้า ไม่ชอบงานที่ทำ ไม่ชอบทุกอย่างในชีวิต!
ทางแก้ : ปรับเปลี่ยนทัศนคติมองผู้อื่นในด้านดี หรืออย่างน้อยก็ตามความเป็นจริง มองลูกค้าว่าเป็นผู้ที่ทำให้เราเลี้ยงครอบครัวได้ เพราะการทำงานโดยมีทัศนคติไม่ดียากจะก้าวหน้า และที่แย่ที่สุดคือผ่านชีวิตทำงานแต่ละวันอย่างทรมาน 
3 มะนาว (ไม่มีน้ำ) 
พูดไม่ดี พูดมากไป พูดไม่ไพเราะ พูดแต่เรื่องร้ายๆ เหล่านี้เป็นอันตรายต่อองค์กรอย่างยิ่ง นอกจากจะขัดใจกันในองค์กรแล้ว ยังอาจทำให้ลูกค้าหนีหายก็ได้
ทางแก้ : พูดน้อยหน่อย ทำงานมากหน่อย มองด้านดีของคนอื่นบ้าง 
4 จิก 
เจ้านายประเภทที่ใช้คนไม่เลือกเวลา ชอบบรี๊ฟงานห้านาทีก่อนเลิกงาน โทร.ตามจิกลูกน้องห้านาทีก่อนเที่ยงคืนและในวันหยุดเป็นประจำ
ทางแก้ : การทำงานที่ดีอยู่ที่การวางแผน และรักษาสมดุลของงานกับครอบครัว ลูกน้องที่พักผ่อนพอเพียงและมีชีวิตครอบครัวที่ดี ย่อมทำงานได้ประสิทธิภาพกว่าคนที่ทำงานใต้สภาวะของการจิก การทำงานชั่วโมงยาวนานมิได้หมายถึงประสิทธิภาพและคุณภาพเสมอไป 
5 ว่านหางจระเข้ (ฟาดหาง) 
เจอเรื่องไม่ดีที่บ้านก็นำมาฟาดหาง (จระเข้) กับเพื่อนหรือลูกน้อง หรือทั้งเพื่อนและลูกน้อง
ทางแก้ : แยกแยะงานกับเรื่องส่วนตัว งานส่วนงาน ไม่นำเรื่องส่วนตัวมาปนกับงาน เพราะทุกคนก็ประสบเรื่องไม่ดีทั้งนั้น แก้ปัญหาเรื่องส่วนตัวโดยวิธีการอื่น เช่นปรึกษาเพื่อนฝูง เป็นต้น 
6 (เย็น)ชา 
เย็นชากับลูกค้า ลูกค้าหลุดได้ เย็นชากับลูกน้อง ลูกน้องก็หนี เย็นชากับเจ้านาย ก็อาจตกงาน!
ทางแก้ : รักษาน้ำใจเพื่อนๆ ในที่ทำงาน จะทำให้หลายสิบชั่วโมงต่อสัปดาห์ในที่ทำงานเป็นสวรรค์ ไม่ใช่นรก 
7 สีเสียด
ใช้วาจาเสียดสี เหยียดหยาม กระแทกกระทั้นคนรอบตัวเพื่อความสะใจ ต่อหน้าลูกค้าเอ่ย "ครับๆ ค่ะๆ" ลับหลังลูกค้าด่าว่าโง่ ฯลฯ
ทางแก้ : การใช้คำพูดในเชิงลบไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาใดๆ ทั้งสิ้น ตรงกันข้ามจะทำให้ผู้พูดลดคุณค่าและความน่าเชื่อถือลง ลองมองด้านดีของคนอื่นบ้าง 
8 กระทืบยอด 
เป็นยอดในการย่ำคนอื่น เป็นเยี่ยมในการไต่ขึ้นที่สูงโดยเหยียบหัวเพื่อนร่วมงาน ฯลฯ
ทางแก้ : ไต่ขึ้นที่สูงไปตามพัฒนาการของตนเอง จะเป็นฐานที่แข็งแรงที่สุด 
9 มะขวิด 
ไล่ขวิดคนไปทั่ว ยุ่งเรื่องชาวบ้านโดยไม่ทำงานของตัวเอง 
ทางแก้ : กลับไปทำงาน! เพราะเวลาวัดผลงานในตอนท้าย ไม่ได้วัดกันที่ความคมของเขี้ยว เขา หรืองา 
10 ยอ 
ยกยอเจ้านายตลอดเวลา เสนอหน้าหลังเวลางาน
ทางแก้ : ความก้าวหน้าจากการประจบเอาใจผู้ใหญ่ไม่ใช่รากฐานที่มั่นคงของชีวิตการทำงานในระยะยาว 
11 แมงลัก 
ขโมยไอเดียของคนอื่น แล้วยกว่าเป็นของตัวเอง
ทางแก้ : พัฒนาตนเองตลอดเวลา เรียนรู้จากความคิดของผู้อื่น แล้วนำไปแตกหน่อต่อยอด เป็นการเพิ่มคุณค่าให้ตัวเอง 
12 รางจืด 
ใช้ชีวิตทำงานแบบจืดสนิท ทำงานแบบกางตำรา ไม่เริ่มงานเด็ดขาดแม้เข็มนาฬิกาอยู่ก่อนเวลาเริ่มงาน 1.025 วินาที พนักงานไม่เคยไปสังสรรค์ด้วยกัน ฯลฯ
ทางแก้ : เปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิตทำงานบ้าง แล้วอาจพบว่า การทำงานก็เป็นเรื่องสนุกได้ 
13 กระบือเจ็ดตัว 
พอใจในความรู้ความสามารถที่ตนมีอยู่ไม่ว่ามันจะจำกัดเพียงใด ไม่ยอมเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
ทางแก้ : ความรู้หรือเทคโนโลยีที่เรียนมาเมื่อ 10-20 ปีก่อนอาจแก้ปัญหารูปแบบใหม่ๆ ในปัจจุบันไม่ได้ โลกเปลี่ยนไปนาทีต่อนาที คนทำงานต้องปรับเปลี่ยนตัวเองให้ทัน ต้องศึกษาเพิ่ม อาจเป็นการเรียนวิชาที่เพิ่งเกิดใหม่ สัมมนาทางวิชาการ ศึกษาภาคค่ำ แทนที่จะหาประสบการณ์จากการกินเหล้าและเข้าผับอย่างเดียว

ดำรงชีวิตให้มีความหมาย

1. ทำสิ่งที่ควรทำ
2. อะไรที่ไม่เป็นประโยชน์, ไม่สวย, ไม่น่ารื่นรมย์, จงทิ้ง ไปเสีย...เก็บไว้ทำไม?
3. เวลาและพระเจ้าย่อมรักษาแผลทุกอย่างได้
4. ไม่ว่าสถานการณ์จะดีหรือเลวปานใด, เดี๋ยวมันก็เปลี่ยน
5. ไม่ว่าคุณจะรู้สึกอย่างไรในตอนเช้าของทุกวัน, จงลุกจากเตียง, แต่งตัวและปรากฎตัวต่อหน้า
คนที่เราร่วมงานด้วย...get up, dress up and show up.
6. สิ่งที่ดีที่สุดยังมาไม่ถึง
7. ถ้าคุณยังลุกขึ้นตอนเช้าได้, อย่าลืม ขอบคุณพระเจ้า หรือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุณนับถือเสียด้วย
8. เชื่อเถอะว่าส่วนลึก ๆ ในใจของคุณนั้นมีความสุขเสมอ...ดังนั้น, ส่วนนอกของคุณทุกข์โศกไปทำไมเล่า?

สูตรเกี่ยวกับบุคลิกของตัวเองที่ควรไปจะคู่กับสูตรสุขภาพ

1. อย่าเปรียบเทียบชีวิตของตัวเองกับคนอื่น คุณไม่รู้หรอกว่าคนที่คุณอิจฉานั้นเขามีความทุกข์ยิ่งกว่าคุณอย่างไรบ้าง
2. อย่าคิดทางลบเกี่ยวกับเรื่องที่คุณควบคุมหรือกำหนดไม่ได้ แทนที่จะมองโลกในแง่ร้าย, ก็ทุ่มเทกำลังและพลังงานให้กับความคิดทางบวก ณ ปัจจุบันเสีย
3. อย่าทำอะไรเกินกว่าที่ตัวเองทำได้...รู้ว่าขีดจำกัดของตัวเองอยู่ที่ไหน
4. อย่าเอาจริงเอาจังกับตัวเองนัก เพราะคนอื่นเขาไม่ได้ ซีเรียส กับคุณเท่าไหร่หรอก
5. อย่าเสียเวลาและพลังงานอันมีค่าของคุณกับเรื่องหยุมหยิมหรือเรื่องซุบซิบ....นอกเสียจากว่ามันจะ
ทำให้คุณผ่อนคลายได้อย่างจริงจัง
6. จงฝันตอนตื่นมากกว่าตอนหลับ
7. ความรู้สึกอิจฉาริษยาเป็นเรื่องเสียเวลาเปล่า ๆ ปลี้ม ๆ...คิดให้ดีก็จะรู้ว่าคุณมีทุกอย่างที่คุณจำเป็น
ต้องมีแล้ว
8. ลืมเรื่องขัดแย้งในอดีตเสีย และอย่าได้เตือนสามีหรือภรรยาคุณเกี่ยวกับความผิดพลาดในอดีตของ
อีกฝ่ายหนึ่งเลย เพราะมันจะทำลายความสุขปัจจุบันของคุณ
9. ชีวิตนี้สั้นเกินกว่าที่เราจะไปโกรธเกลียดใคร...จงอย่าเกลียดคนอื่น
10. ประกาศสงบศึกกับอดีตให้สิ้น, จะได้ไม่ทำลายปัจจุบันของคุณ
11.ไม่มีใครกำหนดความสุขของคุณได้นอกจากคุณเอง
12. จงเข้าใจเสียว่าชีวิตก็คือโรงเรียน คุณมาเพื่อเรียนรู้ และปัญหาเป็นเพียงส่วนหนึ่งของหลักสูตร
ซึ่งมาแล้วก็หายไป...เหมือนโจทย์วิชาพีชคณิต...แต่สิ่งที่คุณเรียนรู้นั้นอยู่กับคุณตลอดชีวิต
13. จงยิ้มและหัวเราะมากขึ้น
14. คุณไม่จำเป็นต้องชนะทุกครั้งที่ถกเถียงกับคนอื่นหรอก...บางครั้งก็ยอมรับว่าเราเห็นแตกต่าง

สูตรสุขภาพดี

1. ดื่มน้ำให้มาก 
2. กินอาหารเช้าเหมือนราชา, รับประทานอาหารเที่ยงเหมือนเจ้าชายและเมื่อถึงอาหารเย็น, 
ให้วาดภาพว่าตัวเองเป็นแค่ขอทาน (แปลว่ากินมือหนักที่สุดตอนเช้า, และกลาง ๆ ตอนเที่ยง 
และตกเย็นแล้ว, ทำตัวเป็นยาจก, ไม่มีอะไรจะกิน...สุขภาพจะเป็นอย่างเทวดาทีเดียวเชียวแหละ) 
3. กินอาหารที่โตบนต้นและบนดิน, พยายามหลีกเลี่ยงอาหารที่ผลิตจากโรงงาน 
4. ใช้ชีวิตบนหลักการ 3 E...นั่นคือ energy หรือพลังงาน, enthusiasm หรือกระตือตือร้น 
และ empathy คือเอาใจเขามาใส่ใจเราให้มาก ๆ 
5. หาเวลาทำสมาธิหรือสวดมนต์เสมอ 
6. เล่นเกมสนุก ๆ เสียบ้าง, อย่าเครียดกันนักเลย 
7. อ่านหนังสือให้มากขึ้น...ตั้งเป้าว่าปีนี้จะอ่านมากกว่าปีที่ผ่านมา 
8. นั่งเงียบ ๆ อยู่กับตัวเองสักวันละ 10 นาทีให้ได้ 
9. นอนวันละ 7 ชั่วโมง 
10. เดินสักวันละ 10 ถึง 30 นาที, แล้วแต่จะสะกวด, ไม่ต้องเครียดกับมัน, 
วันไหนไม่ได้เดิน, ก็อย่าหงุดหงิดกับมัน 
11. ระหว่างเดิน, อย่าลืมยิ้ม