วันพุธที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ฤกษ์งามยามดี ประจำปี 2553

ฤกษ์สำหรับบรรพชาอุปสมบท
เดือนมกราคม วันที่ 14, 16, 24
เดือนกุมภาพันธ์ วันที่ 1, 10, 20
เดือนมีนาคม วันที่ 10
เดือนเมษายน วันที่ 15, 16, 18
เดือนพฤษภาคม วันที่ 13, 30
เดือนมิถุนายน วันที่ 9, 27
เดือนกรกฎาคม วันที่ 6, 7, 15
เดือนสิงหาคม วันที่ 3, 12, 20
เดือนกันยายน วันที่ 17, 26
เดือนตุลาคม วันที่ 5, 14, 24
เดือนพฤศจิกายน วันที่ 2, 10, 11
เดือนธันวาคม วันที่ 8, 17, 26
ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่
(เพื่อสร้างหลักฐาน-อยู่เย็นเป็นสุข)
เดือนมกราคม วันที่ 10, 14, 16, 24, 26, 30
เดือนกุมภาพันธ์ วันที่ 1, 3, 10, 13, 20, 22
เดือนมีนาคม วันที่ 2, 6, 4, 10, 16, 20, 25
เดือนเมษายน วันที่ 3, 8, 11, 13, 15, 16, 18, 30
เดือนพฤษภาคม วันที่ 5, 13, 19, 27, 30
เดือนมิถุนายน วันที่ 2, 9, 10, 15, 16, 20, 27, 29
เดือนกรกฎาคม วันที่ 4, 6, 7, 9, 13, 15, 20, 30
เดือนสิงหาคม วันที่ 3, 5, 12, 13, 18, 20, 22, 27
เดือนกันยายน วันที่ 1, 5, 10, 14, 17, 19, 23, 26, 28
เดือนตุลาคม วันที่ 3, 5, 7, 14, 20, 24, 26
เดือนพฤศจิกายน วันที่ 2, 3, 4, 7, 10, 11, 12, 17, 26
เดือนธันวาคม วันที่ 1, 5, 8, 17, 19, 23, 24, 26, 28
ฤกษ์มงคลสมรส
เดือนมกราคม วันที่ 9, 16, 18, 19, 26, 28
เดือนกุมภาพันธ์ วันที่ 3, 13, 22
เดือนมีนาคม วันที่ 2, 14, 20, 23
เดือนเมษายน วันที่ 1, 8, 10, 20, 28
เดือนพฤษภาคม วันที่ 5, 7, 25, 26
เดือนมิถุนายน วันที่ 2, 4, 10, 13, 20, 22, 29
เดือนกรกฎาคม วันที่ 1, 9, 10, 29
เดือนสิงหาคม วันที่ 5, 13, 22, 25
เดือนกันยายน วันที่ 1, 3, 10, 12, 19, 21, 28
เดือนตุลาคม วันที่ 1, 7, 26
เดือนพฤศจิกายน วันที่ 3, 4, 12, 24
เดือนธันวาคม วันที่ 1, 3, 12, 19, 22, 28, 30

ราศีฮอตสุด และแย่ที่สุดแห่งปี 2553


หลายคนบอกว่าปีเสือที่จะมาถึงเป็นเสือดุ เสือหิว เสือโหย โดยไทยรัฐออนไลน์ได้เชิญ ซินแซชื่อดังอย่าง ภาณุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล มาเคาะว่าราศีที่ถือว่าดีที่สุดในปีนี้ พร้อมกับ อีกราศีที่ไม่ดีว่าเป็นอย่างไร เพื่อจะได้ให้ทุกคน ได้เตรียมตัวรับมือกับปีเสือที่ว่ากันว่าเป็นปีเสือโหดที่จะมาถึง..
ปีขาล สมพงศ์กับ ปีจอ มากที่สุด/ซินแซชื่อดังบอกว่า แม้ว่าปีจอจะสมพงษ์กับปีขาล
มากที่สุดในบรรดา 12 ราศี แม้จะดีที่สุด แต่อย่างไรก็ดี /ก็ต้องขึ้นอยู่กับรอบของปีเกิดของคุณประกอบด้วยว่าเกิด
ปีขาลรอบไหนถึงจะเฮงที่สุด…? โดยสามารถแบ่งได้ดังนี้
1. ปีจอ รอบ พ.ศ. 2515 จะมีเคราะห์ทั้งผู้ชายและผู้หญิงเพราะอยู่ในอายุ 28 ย่าง 29 จะไม่โดดเด่นดีนัก
2.ปีจอ รอบ พ.ศ. 2513 จะดีมากจะโดดเด่นมากๆ ปีนี้จะประสบความสำเร็จมากๆ
3.ปีจอรอบ พ.ศ. 2501 มีทุกข์ลาภ มีเคราะห์และได้ลาภหรือว่าได้ลาภแต่ว่าจะต้องศูนย์เสียอะไรไปสักอย่างหนึ่ง เช่น
ขายที่ดินได้เงินมาไม่ได้จากลาภลอย ซึ่งอาจจะต้องมีการแลกเปลี่ยนทั้งเพศชายและหญิง
4.ปีจอ รอบ พ.ศ. 2489 ปีจอธาตุไฟเป็นรอบที่ผู้ชายดีแต่ผู้หญิงไม่ค่อยดี
5.ปีจอ รอบ พ.ศ. 2525 ปีจอธาตุน้ำ และรอบ 2537 จอรอบอายุ 17 ปีจอก็จะดีทั้งผู้ชายและผู้หญิง ถ้าดีที่สุดจะ
จอ 2541 ถือว่าดีสุด จะอยู่ที่ตรงดั้งจมูกถ้าดั้งจมูกดี
ก็สวยเลย เหมือนที่เขาชอบเสริมดั้งปีขาล สมพงษ์กับ ปีมะเมีย
1.ปีมะเมีย รอบ พ.ศ. 2545 เด็กทั้งผู้ชายและผู้หญิงต้องระวังตัวเพราะแม้จะเป็นปีสมพงศ์แต่อายุเข้าเคราะห์
2.ปีมะเมียรอบ พ.ศ. 2523 อายุ 21 ดีมากทั้งผู้ชายและผู้หญิงโดยเฉพาะจะประสบความสำเร็จในการศึกษา
3.ปีมะเมีย รอบ พ.ศ. 2521 เป็นธาตุดินเรียกว่ามีทุกข์ลาภเพราะว่าอายุอยู่ใน 33 ทั้งผู้ชายและผู้หญิงจะมีทุกข์ลาภ
อาจมีเรื่องวุ่นวายคู่ครอง หรือเรื่องงาน
4. ปีมะเมีย รอบ พ.ศ. 2509 ผู้ชายดีแต่ผู้หญิงจะมีเรื่องวุ่นวายมากๆ
5.ปีมะเมียรอบ พ.ศ. 2497 ดีทั้งผู้ชายและผู้หญิง แต่ทว่าผู้ชายระวังสุขภาพ ซึ่งผู้หญิงโดดเด่นกว่า
6.ปีมะเมียรอบ พ.ศ. 2485 ทั้งผู้ชายและผู้หญิงจะมีทุกข์ลาภก็จะไม่มีอะไรมากแต่ควรจะระวังเรื่องสุขภาพ
ปีขาลสมพงศ์กับขาลมีทั้งดีทั้งเสีย
1.ปีขาลรอบ พ.ศ. 2541 เด็กหญิงและชายระวังอายุเข้าเคราะห์ ระวังจะมีทุกข์ลาภ ระวังอุบัติเหตุ แต่ถ้าหมั่นทำบุญทำทานสะเดาะห์เคราะห์ก็จะผ่านไปได้
2.ปีขาลรอบ พ.ศ. 2529 ผู้ชายดีแต่ผู้หญิงต้องระวัง ผู้หญิงจะมีเคราะห์ต้องระวัง
3.ปีขาลรอบ พ.ศ. 2517 ทั้งผู้ชายและผู้หญิงดี
4.ปีขาลรอบ พ.ศ. 2505 ชาย-หญิงอยู่ในเคราะห์ปีสมพงศ์จริงแต่อายุอยู่ในเคราะห์ต้องระวังปัญหาจากเพศตรงข้าม
5.ปีขาลรอบ พ.ศ. 2493 ผู้หญิงดีแต่ผู้ชายต้องระวังจะมีเรื่องวุ่นวายโดยเฉพาะปัญหาจากเพศตรงข้ามทำ ให้วุ่นวาย สร้างเรื่องให้เดือนร้อน เข้ามาติดพัน เข้ามาาวุ่นวาย
6.ปีขาลรอบ พ.ศ. 2481 ชายหญิงเข้าเคราะห์ทั้งคู่ ถึงไม่ได้ปีชงแต่อายุอยู่ในช่วงเข้าเคราะห์พอดี
และจะมาเกื้อหนุนคนที่เกิดปีกุลขาลมาเกื้อกูลกับกุล
1.ปีกุล รอบ พ.ศ. 2550 ดีทั้งผู้ชายและผู้หญิง
2.ปีกุล รอบ พ.ศ. 2538 เข้าเคราะห์ทั้งผู้ชายและผู้หญิงมีทกข์ลาภอายุเข้าเคราะห์แต่ปีสมพงศ์อายุ 15 ขึ้น 16 ผู้หญิงอยู่ในเคราะห์ผู้ชายก็อยู่ในเคราะห์แต่ว่าปีก็เกื้อหนุนกันก็ดี
3.ปีกุล รอบ พ.ศ. 2526 ผู้ชายดีแต่ผู้หญิงจะวุ่นวาย อย่างไรก็ดีปีนี้เหมาะกับการแต่งงานมีครอบครัว
4.ปีกุลรอบ พ.ศ. 2514 ผู้หญิงดี ชายต้นปีวุ่นวาย กลางปีจะดีหลังวันเกิด 100 วันไปแล้วจะดี ทั้งชายและหญิง
5.ปีกุล รอบ พ.ศ. 2502 ผู้ชายโดดเด่น แต่ผู้หญิงยุ่งวุ่นวาย หน่อยดีทั้งคู่แต่หญิงจะยุ่งวุ่นวายหน่อยต้องดูจุดเดินที่เนินปาก ถ้าเนินปากสวย ก็จะยุ่งรุ่งเรืองมาก
6.ปีกุลรอบ พ.ศ. 2490 ดีทั้งผู้ชายและผู้หญิง
ที่มา หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ


วันอังคารที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2552

รวมคาถาช่วยเรียนเก่ง



คาถารวมจิต
อิติ สัมมาสัมพุทธัสสะ มะมะ จิตตัง
เมื่อใดที่จิตเกิดอาการฟุ้งซ่านขึ้นมา ให้ทิ้งคำภาวนาอย่างอื่นเสียให้หมด
กำหนดลมหายใจเข้าออก ว่าคาถานี้ตามสบายๆ กำลังของสมาธิจะรวมตัวได้รวดเร็ว
พระคาถาไหว้ครูอาจารย์ เพื่อส่งเสริมการเรียน
ยันหา ธัมมัง วิชาเนยยะ สัมมาสัมพุทธะเทสิยัง สักกัจจัง
ตัง นมัสเสยยัง อัคคิหุตตังวะ พราหมโณติฯ
คาถาพระอินทร์
(จากหนังสือสมบัติพ่อให้ หน้า207 - 20
สหัสสเนตโต เทวินโท ทิพพจักขุง วิโสทายิ(ท่อง 7 จบ)
อีกอย่างคือเวลาอยู่ในห้องสอบ ให้ลองทำดูก่อน ว่าทำได้ไหม ถ้าไม่ได้ ก็ให้คว่ำกระดาษข้อสอบลง แล้วนึกถึงพระพุทธเจ้า นึกถึงพระอินทร์ ท่องนโม 3 จบ แล้วท่อง "สหัสสเนตโต เทวินโท ทิพจักขุง วิโสทายิ" 3 ครั้ง แล้วหงายกระดาษขึ้นมาดูข้อสอบว่าทำได้หมดไหม ถ้าไม่หมด คว่ำกระดาษไปใหม่ นึกถึงพระพุทธเจ้า นึกถึงพระอินทร์ ท่องนโม 3 จบ แล้วท่อง "สหัสสเนตโต เทวินโท ทิพจักขุง วิโสทายิ" อีก 7 จบ แล้วหงายกระดาษขึ้นมา คราวนี้ไม่ต้องดูแล้ว ให้ตอบตามความรู้สึก ผลก็เป็นไปตามนั้นคาถาเรียนดีมีความจำเลิศ
สักโก โอสะถัง พุทธโกสาจะ ธัมมัง ลังกายัง
สีหะกะฬะภาสา พะหูลาภา พะหูปัญญา พะหูสิงเห ปะสิทธิเมฯ
พระคาถาทำให้ปัญญาว่องไว
ปัญญาจิตตัง สิเนหัง พันธัง สะวาหุมฯ ครบ ๓ จบ
คาถาเสกหมากกินมีปัญญา
โอม เตระอุตตะมัง วะลังวะระ
มาหาปัญโญ สะวาโหมฯ
พระคาถาบริกรรมก่อนเข้าห้องสอบ สมองใส
โอม ปุ ปะ ทะ ลุ ทัน ตา
ปัญญาโมกขัง อะระหัง บังเกิดฯ
คาถาตะกรุดเปิดสมอง
นะโปร่ง นะปุ นะทะลุปัญญา
พระคาถาอิติปิโสรัตนมาลา บทที่ 11
สัญจะยังปาระมิงสัมมา สังขารานังขะยังกัต๎วา
สัญจิต๎วาสุขะมัตตะโน สันตะคามิงนะมามิหังสำหรับบทนี้ ตำรับกล่าวชี้ ว่าดีจริงสำหรับเสกยา ปัญญาดียิ่ง สุดจะหาสิ่ง ใดมาเปรียบปาน
คาถาปัญญาดี
สุ จิ ปุ ลิ (หัวใจนักปราชญ์)
โอมปุปุ ทะลุปัญญา ปัญญาปุปุฯ
ปุปุ ทะลุปัญญา พุทธชักมา พาคิดได้
อัธยังยะ สว่างวะดังดวงแก้ว
โอม ปุปุ ทะลุปัญญาพุทธโลกานุกัมปกาติ
โอมปุปุ ทะลุปัญญา ทะลุโลกา ปัญญาปุปุ
นะ ปะติ ปรุ ลุทันตา พุท ธะ รู ปา เอหิ ปัส สิ โถ
คาถาพระสุนทรีวาณี(คาถาเรียกความจำ)
มุนินทะ วะทะนัมโพชะ คัพภะสัมภะวะ สุนทรี ปาณีนัง สะระณัง วาณี มัยหัง ปีณะยะตังมะนังฯ
นาง ฟ้า คือพระไตรปิฎก อันเกิดจากดอกอุบล คือพระโอฏฐ์ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งพำนักของสรรพสัตว์ทั้งหลาย ขอจงยังใจของข้าพเจ้าให้เอิบอิ่มปรีดาปราโมทย์ รู้แจ่มแจ้งแทงตลอดจำได้ซึ่งพระไตรปิฏกทั้งโลกิยะและโลกุตระ หรือเรื่องราวทางโลก-ทางธรรม ให้ทวนกลับมาในห้วงสัญญา ด้วยเทอญฯ
หัวใจมุตโต (ปัญญาแตกฉาน)
มุตโต มุตตัง อะระหังพุทโธ สะหัสสะเนตโต เทวินโททิพพะจักขุงวิโสธายิ
ของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต บูรพาจารย์ฝ่ายกัมมฐาน
วิธี ใช้ ตั้งจิตระลึกถึงคุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ คุณบิดามารดา คุณครูบาอาจารย์ คุณเทวดาคุณพรหม และหลวงปู่มั่นเป็นที่สุด แล้วอธิษฐานดังนี้ ด้วยเดชะอานุภาพบารมีของพระทั้งหลายขอให้ข้าพเจ้ามีสติปัญญาผ่องใสสามารถ เล่าเรียนหรือทรงจำความรู้ได้ว่องไวคล่องแคล่วแตกฉานแม่นยำ สิ่งใดที่ยังไม่รู้ก็ขอให้รู้แจ้งโดยไว สิ่งใดที่รู้แล้วก็ขอให้จำได้อย่างแม่นยำอย่าได้ลืมเลือนด้วยเถิด สาธุ
คาถาปัญญาดีโบราณ ของหลวงปู่มั่น
(ตั้งนะโม 3 จบ) อะอิงอ้อ อ้อสูตร อ้อเขียน อ้อเรียน อ้อมัด อ้อคัดหัวใจ อ้อไขเห็นดูก อ้อผูกเห็นเงา อ้อเกาเห็นยอด อ้อขอดเห็นใบ นะจำจิต โมจำใจ พุทจำไว้ ทาจำให้ อย่าให้หลงลืม นะโมพุทธายะ (ท่อง 3 จบหรือ 7 จบ)
คาถานี้หลวงปู่ทองฤทธิ์ วัดป่าฉันทนิมิต ซึ่งเดิมท่านเป็นคนปัญญาไม่ดี อายุ 7 ขวบยังอ่านหนังสือไม่ได้ เขียนก็ไม่ได้อีก หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เสกข้าวปั้นให้กินทุกวัน จนท้ายที่สุด หลวงปู่ทองฤทธิ์ กลายเป้นคนที่มีปัญญาฉลาดว่องไว ก่อนหลวงปู่มั่นมรณะภาพ ท่าเขยนใส่ใบลานลอดใต้ถุนให้ หลวงปู่ทองฤทธิ์หลวงปู่ทองฤทธิ์จึงเอาคาถานยี้มอบให้อาจารย์ชินพรทำตะกรุดอ้อป่อง
พระคาถาทะลุปัญญา(หลวงปู่มั่น)
โอม ปุปุ ทะลุปัญญา พุทธรูปปะ เอหิ มะมะ
เป็นพระคาถา ทะลุปัญญา เป็นคาถาที่หลวงปู่มั่นใช้เสกข้าว กิน
ท่านว่ามีปัญญา มาก เป็นพระคาถากินแล้วเจริญปัญญา แคล้วคลาดปลอดภัย
คาถาสารพัดนึก
พระพุทธเจ้า ทานะปาระมี สีละปาระมี เนกขัมมะปาระมี ปัญญาปาระมี วิริยะปาระมี ขันติปาระมี สัจจะปาระมี อธิษฐานะปาระมี เมตตาปาระมี อุเบกขาปาระมี ทานะอุปปะปาระมี สีละอุปปะปาระมี เนกขัมมะอุปปะปาระมี ปัญญาอุปปะปาระมี วิริยะอุปปะปาระมี ขันติอุปปะปาระมี สัจจะอุปปะปาระมี อธิษฐานะอุปปะปาระมี เมตตาอุปปะปาระมี อุเบกขาอุปปะปาระมี ทานะปะระมัตถะปาระมี สีละปะระมัตถะปาระมี เนกขัมมะปะระมัตถะปาระมี ปัญญาปะระมัตถะปาระมี วิริยะปะระมัตถะปาระมี ขันติปะระมัตถะปาระมี สัจจะปะระมัตถะปาระมี อธิษฐานะปะระมัตถะปาระมี เมตตาปะระมัตถะปาระมี อุเบกขาปะระมัตถะปาระมี บารมี ๓๐ ทัศ
อานิสงค์ : สารพัดนึก
สวดให้ปัญญาดี
สัพเพพุทธามหาเตชามหาปัญญามหัพพลา
เตสาหํสิรสาปาเทวันทามิปุริสุตตเม
คำแปล: "พระพุทธเจ้าทั้งหลายผู้มีเดชยิ่งใหญ่ มีกำลังยิ่งใหญ่
ข้าพเจ้าขอนมัสการพระบาทของพระพุทธเจ้าทั้งหลายด้วยเศียรเกล้า"
หมายเหตุ 1.) ความในบทมนต์นี้มีคำที่อ้างถึงปัญญาของพระพุทธเจ้าและนมัสการด้วยเศียรเกล้าซึ่งเป็นการเคารพต่อปัญญาผลสะท้อนอาจจะมีมาช่วยปัญญาของเราได้ 2.) เป็นมนต์ใน "อาฎานาฏิยปริต"
คาถาทิพจักษุ(คาถาตาทิพย์)
นะ มะ พะ ทะ จะ ตุ ระ ภู ตา นัง
อาคัจฉายะ อาคัจฉาหิติ วัตตัพโพ อาคัจฉาหิ ฯสวด ๕ จบขอนิมิตที่บันดาลโชคลาภแก่ตน อธิษฐานจิต
ตั้งสมาธิขอเห็นชัดเจนในสิ่งที่ปรารถนา
คาถาเพ่งเลขหวย
มะ อะ อุ สี วัง อาจุตตัง พระอะระหัง
จุตติ โลกะอิทังยะธิระ สังฆัง จุตติ จุตติฯ
สวด ๕ จบ ขอนิมิตที่ดี อธิฐานจิตขอเพ่งเห็นในสิ่งที่ดีที่นำโชคลาภมาสู่ตน
คาถาเพ่งนิมิต
อิทธิ ฤทธิ พุทธานิมิตตัง ทิสวานะตังฯ
สวด ๕ จบ ตั้งสมาธิ ตั้งจิตอธิษฐาน ขอให้เกิดนิมิตที่ดี เห็นในสิ่งที่ดีนำมาซึ่งโชคลาภแก่ตน
คาถาเสี่ยงโชค
อุ เย อะ เยฯ
สวด ๙ จบ เสกเป่าลมออกไปจะมีโชคดีในการเสี่ยงต่างๆ

ราศีไหน...ที่สุด


ราศีใดอาภัพคู่ที่สุด ** มีน (14 มีนา - 12 เมษา)รองลงมาคือกันย์กับพิจิก
ราศีใดเจ้าชู้ที่สุด ** ธนู (16 ธค - 15 มค)
ราศีใดดุที่สุด ** มังกร (16 มค - 12 กพ)
ราศีใดอารมณ์ศิลปินที่สุด ** กุมภ์ (13กพ - 13มีค)
ราศีใดขี้หึงที่สุด ** เมษ (13 เมษา - 13 พ.ค)
ราศีใดดื้อที่สุด ** สิงห์ (17 สค - 16กย)
ราศีใดร้ายลึกที่สุด ** พิจิก (16พย - 15 ธค)
ราศีใดอกหักซ้ำซากที่สุด ** ตุลย์ (17 ตค - 15 พย) รองลงมาคือ สิงห์
ราศีใดมีโอกาสเบี่ยงเบนทางเพศที่สุด ** เมถุน (14 มิ.ย - 14 กค)
ราศีใดมีความอดทนสูงที่สุด ** พฤษภ (14 พ.ค - 13 มิ.ย)
ราศีใดหยิ่งที่สุด ** สิงห์ (17 สค - 16กย)
ราศีใดโรแมนติคที่สุด ** ตุลย์ (17 ตค - 15 พย)
ราศีใดใจนักเลงที่สุด ** เมษ (13 เมษา - 13 พ.ค)
ราศีใดรสนิยมแปลกที่สุด ** กุมภ์ (13กพ - 13มีค)
ราศีใดมีความมั่นใจที่สุด ** มังกร (16 มค - 12 กพ)
ราศีใดยิ่งแก่..ยิ่งรวยที่สุด ** มังกร (16 มค - 12 กพ)
ราศีใดรักครอบครัวมากที่สุด ** กรกฎ (15 ก.ค - 16 ส.ค)
ราศีใดขี้เหนียวที่สุด ** สิงห์ (17 สค - 16กย)
ราศีใดโลเลหลายใจที่สุด ** เมถุน (14 มิ.ย - 14 กค)
ราศีใดมีความยุติธรรมที่สุด ** ตุลย์ (17 ตค - 15 พย)
ราศีใดชอบหว่านเสน่ห์ที่สุด ** พฤษภ (14 พ.ค - 13 มิ.ย)
ราศีใดขี้วีนที่สุด ** เมษ (13 เมษา - 13 พ.ค)
ราศีใดมองโลกในแง่ดีที่สุด ** ธนู (16 ธค - 15 มค)
ราศีใดรักอิสระที่สุด ** กุมภ์ (13กพ - 13มีค) รองลงมาคือ เมถุน
ราศีใดมีเกณฑ์จะโหนคานมากที่สุด ** มีน (14 มีนา - 12 เมษา)
ราศีใดมีเสน่ห์ที่สุด ** พิจิก (16พย - 15 ธค) รองลงมาคือ ตุลย์
ราศีใดมีเหตุผลที่สุด ** มังกร (16 มค - 12 กพ)
โดย..หมอลักษณ์

วันจันทร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2552

บทสวดมนต์ก่อนนอน (สวดไม่เกิน5นาทีจบ พลานุภาพมาก อานิสงฆ์มาก )


 หลังจากสวดบูชาพระรัตนตรัยเสร็จเรียบร้อยแล้วสำหรับท่านที่ไม่ค่อยมีเวลามาก แนะนำบทสวดพุทธมนต์แบบย่อ ๆ แต่มีพลานุภาพมาก มีอานิสงส์มาก สวดไม่เกิน 5 นาทีจบ ดังนี้
นะโม 3 จบ
หัวใจ อิติปิโส    ว่าอิสะวาสุ
หัวใจพาหุง        พา มา นา อุ กะ สะ นะ ทุ
หัวใจพระเจ้าสิบชาติ   เต ชะ สุ เน มะ ภู จะ นา วิ เว
หัวใจบารมี 30 ทัส         ทา สี เน ปะ วิ ขะ สะ อะ เม อุ
หัวใจพระอาการวัตตาสูตร       
มุนินทะ วะทะนัมโพชะ คัพพะสัมภาวะ สุนทะรีปาณีนัง สะระณัง วาณี มัยหัง ปิณะ ยะตัง มะนัง
หัวใจพระธารณะปริตร
ทิฏฐิลา ทัณฑิลา มันติลา โรคิลา ขะระรา ทุพพิลา เอเตนะ สัจจะ วัชเชนะ โสตถิ เม โหตุ สัพพะทา
หัวใจพระไตรปิฎก                         จิเจรุนิ
หัวใจพระคาถาชินบัญชร
ชะ จะ ต ะ สะ สี สัง หะ โก ทะ กะ เก นิ กุ โส ปุ เถ เส เอ ชะ ระ ธะ ขะ อา ชิ วา อะ ชิ สะ อิ ตัง
คาถาบูชาพระพุทธเจ้า 16 พระองค์
นะมะนะอะ นอกอนะกะ กอออนออะ นะอะกะอัง อุมิอะมิ มะหิสุตัง สุนะพุทธัง สุอะนะอะ

สวดจบควรแผ่เมตตาทุกครั้งทีมา:http://www.larnbuddhism.com

หัวใจพระสีวลี


นะชาลีติ
นะ หมายถึง นอบน้อม มีสัมมาคาราวะ
ชา หมายถึง ขวนขวายเรื่องการงาน
ลี หมายถึง ไม่นอนมาก ไม่นอนดึก ไม่ตื่นสาย
ติ หมายถึง ว่าโดยทั้งหมด
ท่องตอน ติดต่อลูกค้า คุยกับผู้ใหญ่ ติดต่องานการ

"นะชาลีติ ประสิทธิลาภา"

คาถาค้าขายดี


ให้สวดคาถาพระสีวลี ประมาณวันละเก้าจบ พระคาถาเงินล้านวันละเก้าจบ หรือมากที่สุดเท่าที่จะสวดได้ ภาวนาในใจไปเรื่อยๆ
แล้วสวดคาถาของหลวงพ่อโอภาสี จากนั้นแผ่บุญให้เทวดาที่รักษาเราเอง เทวดาที่รักษาที่ที่เราไปค้าขายไปขอพรท่านให้ขายดี

**คาถาหลวงอิติสุคโต หลวงพ่อโอภาสี
“อิติสุคโต อะระหังพุทโธ นะโมพุทธายะ ปฐวีคงคา พระภุมมะเทวา ขะมามิหัง”

กล่าวอย่างน้อย3ครั้ง หรือกล่าวเรื่อยไปขณะเดินทางยิ่งดี ค้าขายสวดทุกครั้งที่เปิดร้าน จุดธูปบอกเจ้าที่อธิษฐานให้ขายดีมีกำไร เดือดร้อนใจก็สวดอโหสิกรรมเจ้ากรรมนายเวร ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ด้วย

         ท่านว่าการบวงสรวงต่างๆ อธิฐานสิ่งใดเทวดาท่านจะอนุเคราะห์สุดความสามารถ เจ้ากรรมนานเวรได้ยินจะยอมอโหสิกรรมให้ จึงดีทางเมตตาและคุ้มครองภัย สวดประจำจะหมดทุกข์หมดโศก โรคภัยไข้เจ็บจะหาย ครอบครัวเป็นสุข เทวดาคุ้มครอง...

think think

" เกิดเป็นคนจะเป็นใหญ่อย่าใจน้อย    อะไรนิดอะไรหน่อยอย่าผวา
หวั่นสะดุ้งแม้เพียงเสียงนกกา              วันข้างหน้าจะเป็นใหญ่อย่างไรกัน
ธรรมดาไม้สูงย่อมต้องมีล้ม                 ทำงานใหญ่คนติชมอย่าเสียขวัญ
ขวัญต้องเยี่ยมเทียมฟ้ากล้าประจัญ     มุ่งฝ่าฟันให้ถึงซึ่งหลักชัย "

คำทำนายปีขาล2553 ...สำหรับคนปีขาล

ปีขาล


ปีนี้เป็นปีนักษัตรของคนปีขาลเองแต่ที่น่าแปลกคือกลับไม่ส่งผลกับเจ้าชะตาเท่าไหร่ ในปีขาลนี้ คนขาลก็มีโอกาสขยายงาน หรือได้เลื่อนตำแหน่งอีกต่างหาก ในด้านการงานปีนี้คนปีขาลต้องใช้สติปัญญาอย่างหนักดุจดั่งขุนเขาที่ต้านลม ทำการใดๆๆให้รอบคอบ อาจจะได้เพิ่มงานแต่ไม่เพิ่มขั้นหรือเงินในตอนต้นปี แต่ปลายปีไปจะดีอย่างประหลาด และไม่ควรเปลี่ยนงานอย่างยิ่งในปีนี้ อีกทั้งในการคุยกับเพื่อนร่วมงานให้ระวังเพราะเกณฑ์มีบุคคลใส่ร้ายป้ายสี ควรนิ่งสงบไว้ดีกว่า ต้องใช้คำว่าทนอย่างมากในช่วงต้นปีพอเลยเข้าปลายปีโชคและการเลื่อนตำแหน่งจะมา อย่างไม่คาดคิด ในส่วนเจ้าของกิจการในช่วงหกเดือนแรกของปี ควรงดขยายโครงการใหญ่ๆๆหรือชะลอไว้ก่อน พอหกเดือนหลังค่อยดำเนินการจะสำเร็จอย่างมหัศจรรย์ โชคลาภเงินทอง ปีขาลควรจะวางแผนในการใช้จ่ายให้ดีการหาเงินในช่วง๖เดือนแรกต้องทำแบบค่อยๆๆเป็นค่อยๆๆไป อย่าโลภไปลงทุนในสิ่งใดอาจเป็นร้ายมากกว่าดี พอปลายปีจะมีเงินเข้ามาบ้างก็จงเตรียมวางแผนในการใช้เงินได้เลย ด้านสุขภาพปีขาลปีนี้ให้ระวังโรคทางเดินอาหาร ระมัดระวังอาหารการกินให้ดี และระวังในด้านไขข้อด้วย อาจบาดเจ็บไหล่หลุด ขณะออกกำลังกายได้ เคราะห์อีกอย่างของคนปีขาลปีนี้ ให้ระวังจะเกิดเหตุการณ์บาดเจ็บจากของมีคม หรือถูกของมีคมทำร้าย เลือดตกยางออก หรือ ได้รับอุบัติเหตุทางรถยนต์ ดังนั้นทางที่ดีควรใช้สติให้รอบคอบในการดำรงชีวิต อยู่ในความไม่ประมาท ปลายปีจะได้ฉลองความสุขเต็มที่

การแก้เคราะห์เนื่องจากปีนี้ เป็นปีนักษัตรของตน ควรไปฝากดวงที่วัดมังกรกมลาวาส และ ให้ไปทำบุญด้วยการบริจาคเลือด หรือซื้อเลือดเป็นเคล็ดแก้เลือดตกยางออก รวมทั้งไปทำบุญบริจาคโรงศพให้ศพไร้ญาติ จะช่วยแก้เคล็ดในทางอุบัติเหตุได้น้อยลง และควรไปกราบของพรพระร่วงโรจนฤทธิ์หรือ(พระปางห้ามสมุทร) ที่องค์พระปฐมเจดีย์ เพื่อขอให้ก้าวหน้าในทางการงานและคนที่คิดไม่ดีมีอันเป็นไป และควรสวมเครื่องรางที่เป็นรูปเสือที่ผ่านพิธีพุทธาเทวาภิเษกแล้ว จะทำให้เสริมดวงชะตามากขึ้น

วันเสาร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2552

กิจกรรม เจเจ krub


Posted by Picasa

วันอังคารที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2552

Audio/Video to exe โปรแกรมแปลงไฟล์ที่จิ๋วแต่แจ๋ว

วันนี้มาแนะนำโปรแกรมดีๆ ที่มีขนาดไฟล์ที่เล็ก แต่ความสามารถของมันไม่ได้เล็กตามไปกับขนาดของไฟล์เลย
                  เป็นโปรแกรมสำหรับแปลงไฟล์ แปลงได้ทุกๆชนิดครับ ตั้งแต่ 3GP, AAC, AC3, AIFF, ASF, AVI, EXE, FLAC, FLV, GIF, M1V, M2V, M4V, MKA, MKV, MOV, MP2, MP3, MP4, MPC, MPG, NUT, OGG, RA, RM, SWF, VOB, VOC, WAV, WMA, WMV, WV, YUV อีกทั้งยังแปลงไฟล์วิดีโอหรือเพลง เป้นนามสกุล .exe ซึ่งไม่ต้องพึ่งพาโปรแกรมใดๆอีกด้วย
เรื่องของการติดตงั้โปรแกรม ไม่ต้องคิดให้วุ่นวายใจหรอกครับ เมื่อเราดาวน์โหลดตัวโปรแกรมมาแล้ว สามารถคลิกเพื่อเปิดโปรแกรมได้ทันที เรียกได้ว่าเป็นทั้งโปรแกรมแปลงไฟล์ และ โปรแกรมดูไฟล์วิดีโอและเพลงได้ทุกชนิด เรามาดูกันดีกว่าครับว่าโปรแกรมเป็นอย่างไรบ้าง อย่ารอช้า!!! มาดูกันเลยครับ…….
1.หน้าหลักของ Audio/Video to EXE



  2.หน้าต่างเลือกไฟล์ที่จะแปลงของ Audio/Video to EXE











คลิกดาวน์โหลดได้ที่ http://www.download.com/Audio-Video-to-Exe/3000-2140_4-10560064.html ครับ ส่วนเว็บของผู้ผลิตเข้าไปได้ที่ f2ko.de ได้เลยครับ (มีโปรแกรมดีๆน่าสนใจทั้งนั้น แต่ละตัวก็น่าสนใจไม่น้อย ใครสนใจโปรแกรมอื่นๆ ก็ไปดาวน์โหลดกันมาได้นะครับ)

วันจันทร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2552

เคล็ดลับรวยเร็ววิธีทำธุรกิจที่จะทำให้เงิน 30,000 บาท เพิ่มเป็น 1 ล้านบาทในเวลา 1 ปี

อ่านเอาเป็นแนวคิดในการทำธุรกิจนะครับ
ปรับประยุกต์ให้เหมาะกับความรู้ ความสามารถของตัวเอง และเงินทุนครับ อิอิ เผื่อคุณอาจจะรวยเงินล้านปีนี้ ปีหน้าเด้อ
วิธีทำ
1) เอาเงิน 30000 บาทไปซื้อที่ดินเปล่า 1 ไร่
2) ขุดดินในพื้นที่ 1 ไร่นั้นเอาไปขาย โดยขุดลึก 5 เมตร โดยดำเนินการจ้างผู้รับเหมาวิ่งดินเข้ามาลงรถขุดและวิ่งส่งดินไปถม เราเป็นเจ้าของบ่อขายดินอย่างเดียว
คิดปริมาณดินที่พื้นที่ 1 ไร่มี = 1600 ตรม x ลึก 5 ม. = 8000 ลบม
(ปริมาณดินนี้ประเมินคร่าว ๆ ซึ่งความจริงจะได้น้อยกว่านี้เล็กน้อย เพราะต้องขุดตี slope ขอบบ่อให้เอียงไม่เช่นนั้นบ่อจะถล่ม)
3) รถสิบล้อมีปริมาตรบรรทุกดิน กว้าง x ยาว x สูง = 3 x 6 x 2 = 36 ลบม เราขายดินคันละ 300 บาท
4) เราจะขายดินได้ = (8000/36) x 300 = 66667 บาท คิดเป็นเลขกลม ๆ 60000 บาท เพราะชดเชย 6667 หายไปตรงดินที่ขุดไม่ได้ตรงบริเวณพื้นที่ขอบในข้อ 2)
5) คิดระยะเวลาขุดดิน 1 ไร่ ใช้เวลา 1 อาทิตย์ ดังนั้น 1 อาทิตย์ จ่ายไป 30000 จะได้เงินกลับมา 60000 บาท
6) ย้อนกลับไปทำข้อ 1) ใหม่ เอาเงิน 60000 บาท ซื้อที่ 2 ไร่และขายดิน
ซื้อครั้งที่ 1 จำนวน 1 ไร่ ขุดดินขาย ได้เงินกลับมา 60000
ซื้อครั้งที่ 2 จำนวน 2 ไร่ ขุดดินขาย ได้เงินกลับมา 120000
ซื้อครั้งที่ 3 จำนวน 4 ไร่ ขุดดินขาย ได้เงินกลับมา 240000
ซื้อครั้งที่ 4 จำนวน 8 ไร่ ขุดดินขาย ได้เงินกลับมา 480000
ซื้อครั้งที่ 5 จำนวน 16 ไร่ ขุดดินขาย ได้เงินกลับมา 960000
ซื้อครั้งที่ 6 จำนวน 32 ไร่ ขุดดินขาย ได้เงินกลับมา 1920000
จำนวนไร่ทั้งหมดที่ซื้อ = 1+2+4+8+16+32 = 63 ไร่
ถ้าผู้รับเหมามีรถขุด 1 คัน ขุดได้อาทิตย์ละ 1 ไร่ (ซึ่งนับว่าช้ามาก) จะใช้เวลา 63/4 ประมาณ 16 เดือน
สรุป
เริ่มต้นใช้เงิน 30000 บาท ใช้เวลา 16 เดือน ได้เงินกลับมา 1.92 ล้าน กับที่ดินเปล่า 63 ไร่ที่เป็นบ่อ ซึ่งสามารถต่อยอดโดยการทำบ่อนั้นเป็นบึงตกปลาหรือสร้างรีสอร์ทได้
ทำเสื้อโหล ขายม็อบ (อิอิ หากินกับม็อบ)
1. เงิน 30,000 บาท ไป ทำเสื้อโหล เลือกสีเองก็แล้วกัน ต้นทุนตัวละประมาณ 65 บาท ได้ 500 ตัว
แบกไปขายหน้า ม๊อบ ตัวละ 199 บาท ( ขายให้ม๊อบ อะไรก็แล้วแต่ ถูกที่ถูกเวลา รวยได้ ในเวลารวดเร็ว )ขายหมด ภายใน 2 ชม. ได้เงิน return = 99,500 บาท
2. เดือน ถัดไป นำเงิน 99,500 บาท ไปทำเสื้อโหล อีก 1,500 ตัว แบกไปขาย หน้าม๊อบ
ขายหมด พร้อม lay ได้ return ประมาณ 3 แสน บาท
3. ถ้ามีม๊อบอีกรอบ งานนี้ทำเสื้อ 3,000 ตัว พอ ที่เหลือ ทำ option พวก อุปกรณ์อื่นๆ อาทิ ผ้าโพกหัว สายรัดข้อมือแค่ครั้งที่ 3 ก็ได้ return 995,000 บาท แล้วครับ

สาเหตุที่คนจนยิ่งจน คนรวยก็ยิ่งรวยยิ่งขึ้น

สาเหตุที่ทั่วโลกที่คนไม่รวย และไม่พอเพียง
1.เพราะเชื่อในพรหมลิขิตและชะตากรรม
บางคนจนเพราะความคิด ต่อให้ถูกหวยซํก 20 ล้าน แป๊บเดียวเดี๋ยวก็จนเหมือนเดิม (~ไม่เชื่อลองดูข่าวพวกถูกล็อตเตอรี่แล้วจนเหมือนเดิมภายใน 2 ปีดูได้ ) และเชื่อแต่บุญกรรม วาสนา พระเจ้าบันดาลเท่านั้น ทุกอย่างเป็นพรหมลิขิต โทษฟ้าฝน ดูแต่คนอื่นที่รวยแล้วพร่ำเพร่อได้แค่ว่า “ถ้าฉันโชคดีแบบเขาก็คงเรวยไปแล้ว” มัวงอมืองอเท้า และรำพึง “~เป็นไป ตามพระเจ้ากำหนด”
2. อยุ่ในวังวนที่ไม่มีทางออกมาได้
บางคนกลัวที่จะออกมาจากกฏที่ไม่มีทางออกมาได้เพราะไม่มี โอกาส เพราะเขาเกิดมาแบบนั้น เขาจึงขาดโอกาส เช่น ยาม ไม่มสามารถออกมาทำอย่างอื่นได้นอกจากเฝ้า แต่หากขาดคนที่ทำอาชีพนี้ก็คงแย่เหมือนกัน (แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นที่จะเอามาเถียงกัน เพราะถ้าคุณพูดงี้ ทำไมคุณไม่ไปเป็นยามซะเองล่ะ?)
3. ไม่กล้าเปลี่ยนแปลง
คนเราถ้าอยู่นิ่งๆ มันไม่มีทางจะมีโอกาสเดินเข้ามาหาหรอก มันต้องเดินเข้าไป หาโอกาส ขายของอยู่ปากซอย มัวแต่รอให้คนเดินออกมาซื้อ แทนที่จะเข็นรถเขาไปขายถึงหน้าบ้าน เพื่อ เปลี่ยนแปลงตัวเอง
ทำไมคนเรามีเวลาเท่ากัน 24 ชม. แต่บิล เกตส์ หรือ คนดังๆของโลกถึงรวยล้นฟ้า เพราะเขากล้าเปลี่ยนแปลงตั้งแต่แรกแล้วแม้ว่าใครจะว่าเขานอกคอกก็ตาม
4. อยากทำแต่งานที่ชอบและุถนัด และรายได้เยอะ
ชอบตีแบด วาดรูป ทำไปเถอะครับ แต่ขอให้มันหาเลี้ยงชีพได้ แบบ อ.เฉลิมชัย หรือ ลีโอนาโด ดาวินชี่ เถอะบางคนคิดว่า หากทำสิ่งที่เราชอบแล้ว สิ่งนั้นจะคุ้มครองเราเอง ซึ่งไม่ผิด แต่ทำไงก็ได้ครับขอให้มันเลี้ยงตัวเองได้เถอะเราหันไปดูพ่อแม่ที่เป็นหมอ ครู วิศวะ เราจะพบว่า แท้จริงเค้าอาจจะไม่ได้ชอบจริงๆก็ได้ แต่รายได้มันดีเขาเลยทำก็แค่นั้น
5. ชอบคิดว่าฉันยุ่งตลอดเวลา ไม่มีเวลากำหนดเป้าหมาย ขออยู่วันๆเถิด
คนบางคนยุ่งตลอดเวลา วันๆชอบคิดว่ายุ่งทั้งวัน แต่รู้ตัวอีกทีก็อุตส่าห์มีเวลาเล่นเกมออนไลน์ หรือทำอะไรไร้สาระเสียแล้ว รู้อีกทีก็ว่างเสียแล้วมัวคิดว่าไม่มีเวลาแม้แต่จะวางแผนว่าชีวิตควรจะทำอย่างไร ก็เหมือนคนที่ขึ้นแทกซี่แต่ไม่บอกจุดหมายกับคนขับตั้งแต่แรกแล้วอยู่ไปวันๆ กินเงินเดือนไปเรื่อยๆ เก็บเงินเป็นก้อนๆ กว่าจะทำอะไรเองก็จะรอให้คนเห็นด้วยทั้งโลก ก็ค่อยลงมือทำ แล้วพอแก่ก็ป่วย แล้วเอาเงินก้อนที่เก็บมารักษา พอไม่หายก็ตายไป
=================================
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับคนรวย
1. เงินนั้นชั่วร้าย เงินคือซาตาน และปีศาจ
เงินนั้นไม่ชั่วร้าย แต่ความคิดที่หลงในเงินนั้นแหละคือความชั่วร้าย
คนบางคนคิดว่าความมีทางโลกคือสิ่งที่หนักอึ้ง แต่ตัวเองก็ยังไม่บวชเสียที แต่โทษว่าเงินไม่สำคัญ
คุณไม่มีเงิน จะเอาอะไรมาสร้างวัด แค่สวดมนต์วัดมันจะมีปูนหล่นมาจากฟ้าหรืออย่างไร
ไม่มีเงินคุณจะซื้ออาหารอะไรมาถวายพระ? จะให้กับใครได้?
2. พอเพียง
คนชอบคิดคำว่าพอเพียงแปลว่า ต้องเลี้ยงควายในทุ่งนา สร้างบ่อปลา ทำแปลงผักปลูกเอง แต่แท้จริงแล้ว พอเพียงแปลว่า
“เศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาที่ยึดหลักทางสายกลาง ที่ชี้แนวทางการดำรงอยู่และปฏิบัติของประชาชนในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับครอบครัวไปจนถึงระดับรัฐ ทั้งในการพัฒนาและบริหารประเทศ ให้ดำเนินไปในทางสายกลาง มีความพอเพียง และมีความพร้อมที่จะจัดการต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทั้งภายนอกและภายใน ซึ่งจะต้องอาศัยความรอบรู้ รอบคอบ และระมัดระวัง ในการวางแผนและดำเนินการทุกขั้นตอน เศรษฐกิจพอเพียงไม่ใช่เพียงการประหยัด แต่เป็นการดำเนินชีวิตอย่างสมดุลและยั่งยืน เพื่อให้สามารถอยู่ได้แม้ในโลกโลกาภิวัตน์ที่มีการแข่งขันสูง”
แล้วการพอใจแล้วกับการอยู่ไปวันๆ ให้เป็นภาระำพ่อแม่แล้วก็ตายไป คือพอเพียงจึงเป็นความคิดที่ผิดมหันต์
3. พร่ำบ่นว่าคนรวยเยอะไป น่าจะแบ่งปันบ้าง
คนเหล่านี้หากมีความคิดแค่นี้ กำลังใช้ตรรกะโง่ๆมาคิด เพราะแค่คิดก็จนแล้ว
“หากคนรวยน้อยกว่านี้ คนจนก็ต้องน้อยลงตาม” แล้วมันเกี่ยวกันได้อย่างไร?? หากคนรวยลดนั่นแปลว่าคนจนก็ยิ่งจนหนักไม่ใช่หรือ?
4. รอแต่รัฐอุ้มชู ไม่คิดช่วยตัวเอง
คนที่คิดแบบนี้่ ไม่ต่างอะไรกับ”ภาระ” ประเทศ ซึ่งทำให้ประเทศต้องคอยสูญเสียเงินจำนวนมากเพื่อมาดูแลคนที่วันๆ “งอมืองอเท้า” เหล่านี้ (ไม่นับคนขยันแต่จน) มิฉะนั้นแล้ว รัฐบาลจะชุดไหนชุดไหนมันก็ห่วย อยู่ดี
5. ผมมันโง่ ไม่รวยเหมือนมัน รอชาติหน้าดีกว่า
ขอแสดงความยินดีด้วย เพราะชาตินี้คุณก็โง่เหมือนเดิม และจะชาติไหนคุณก็ไม่รวย เพราะคุณไม่ได้ทำกุศลอะไรเพิ่มได้
=============

วันศุกร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2552

เบ็นเท็น (Ben 10) – เบ็นเท็น : พลังเอเลี่ยน (Ben 10: Alien Force)


เบ็นเท็น (Ben 10) เป็นการ์ตูนทีวีแอนิเมชันของประเทศสหรัฐอเมริกา ผลิตโดย Man of Action (เป็นทีมประกอบด้วย Duncan Rouleau, Joe Casey, Joe Kelly และ Steven T. Seagle) สังกัด Cartoon Network Studios เบ็นเท็น ออกอากาศทุกเช้าวันเสาร์ 10 นาฬิกาในประเทศสหรัฐอเมริกา และในประเทศไทยฉายวันจันทร์ถึงวันศุกร์ในช่วงทูนามิ เวลา 18:00 น. ในช่วงเดือนธันวาคม พ.ศ. 2549 และเปลี่ยนเป็นวันจันทร์ถึงพฤหัสเวลาเดิม (เหตุเพราะวันศุกร์มีการฉายศุกร์หรรษา) ในช่วงเดือนมกราคม พ.ศ. 2550 ทางช่องการ์ตูนเน็ทเวิร์ค ทรูวิชั่นส์ช่อง 29 สำหรับระบบอนาล็อก และช่อง 52 สำหรับระบบดิจิตอล ปัจจุบันได้ฉายจนจบเรื่องไปแล้ว แต่ก็มีการฉายซ้ำอยู่ในช่วงเวลาต่างๆ


เรื่องราวของเบ็นเท็น เริ่มจากตัวเอกของเรื่อง เบ็นจามิน “เบ็น” เท็นนีย์สัน ขณะกำลังหยุดฤดูร้อนกลางป่า เขาได้บังเอิญไปเจอกับดาวตก ซึ่งเมื่อเขาเข้าไปดูก็พบว่ามันเป็นกระสวยจากอวกาศที่ตกลงมาบนโลก ข้างในนั้นบรรจุออมนิทริกซ์ ซึ่งเป็นกำไลข้อมือที่จู่ๆก็กระโดดเข้ามาติดแขนของเขาแบบไม่ยอมปล่อย ซึ่งออมนิทริกซ์นั้นมีพลังให้เบ็นสามารถให้เบ็นเปลี่ยนร่างเป็นสิ่งมีชีวิตต่างดาวได้ถึง 10 แบบ (และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆในอนาคต จนถึง 10,000 แบบ) ซึ่งแต่ละร่างจะมีลักษณะและพลังที่ต่างกันออกไป เบ็นได้ตัดสินใจใช้พลังที่เขาได้รับนี้ในการปกป้องผู้คนจากเหล่าร้ายมากหน้าหลายตา ตั้งแต่สัตวแพทย์สติเฟื่อง, จอมเวทย์ จนไปถึงผู้ควบคุมแมลง หรือเหล่ามนุษย์ต่างดาวในอวกาศที่มาวุ่นวายบนโลก ในขณะเดียวกันก็มีมนุษย์ต่างดาวนามวิวแก็กซ์วางแผนจะชิงออมนิทริกซ์เช่นกัน เบ็นจึงต้องปกป้องโลกทั้งจากวายร้ายบนโลกและวายร้ายจากนอกโลก


>> อ่านต่อ http://piriya.wordpress.com/2009/05/01/%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B9%87%E0%B8%99-ben-10-%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B9%87%E0%B8%99-%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87/

วันพุธที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ครม.ต่ออายุ 5 มาตรการบรรเทาค่าครองชีพ อีก 3 เดือน

เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบให้ขยายเวลาโครงการ 5 มาตรการเพื่อช่วยเหลือค่าครองชีพให้แก่ประชาชน ที่จะสิ้นสุดโครงการในสิ้นเดือน ธ.ค.นี้ ออกไปอีก 3 เดือน หรือถึงสิ้นเดือน มี.ค.53 โดยได้มีการปรับปรุงรายละเอียดของมาตรการลดรายจ่ายค่าน้ำประปา
สาเหตุที่ ครม.อนุมัติให้ขยายเวลาโครงการออกไปแค่ 3 เดือน เนื่องจากต้องการให้มีการประเมินผลโครงการและค่าใช้จ่ายอีกครั้ง ก่อนที่จะพิจารณาว่าจะขยายเวลาโครงการออกไปอีกหรือไม่ ทั้งนี้ ในส่วนของมาตรการช่วยค่าน้ำประปานั้น ที่ประชุมได้ปรับลดจำนวนการใช้น้ำประปาฟรีเหลือ 20 หน่วย จากเดิม 30 หน่วย

วันอังคารที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2552

4 ขั้นตอนเพื่อผิวสวย

ขั้นตอนที่ 1 เลิกสูบบุหรี่
คุณต้องเลือกระหว่างบุหรี่กับผิวสวย การสูบบุหรี่จะไปเร่งให้ผิวเหี่ยวเร็วขึ้น ซีดเซียว มีริ้วรอยรอบปากและดวงตา บุหรี่จะลดปริมาณออกซิเจนและสารอาหารของผิวและทำให้ร่างกายกำจัดของเสียออกไปได้ช้า และไปเพิ่มปริมาณอนุมูลอิสระที่เป็นตัวทำลายผิว เมื่อคุณอายุมากขึ้น ความแตกต่างระหว่างผิวของคนสูบบุหรี่กับคนไม่ได้สูบยิ่งเห็นชัด คราวหน้าที่คุณจะจุดบุหรี่สูบ ให้นึกถึงหน้าคนเหี่ยวๆเสียก่อนละกัน
ขั้นตอนที่ 2 ปกป้องผิวจากแสงแดด
คุณไม่สามารถหลบแดดได้ตลอดเวลา แต่ควรจะห่างๆเอาไว้บ้าง ถ้าคุณรู้จักปกป้องผิวตั้งแต่เนิ่นๆ ผิวคุณจะคงความชุ่มชื่นไปจนคุณอายุ 70-80 ปีเชียวนะคะ เอาอย่างดาราดัง พวกเธอไม่มีทางอาบแดดโดยไม่มีครีมป้องกัน ในวันหยุดให้คุณใส่หมวกและแว่นกันแดด และทาครีมกันแดดทุกวันเพื่อป้องกันริ้วรอย รังสียูวีเอจะทำลายไฟเบอร์และเนื้อเยื่อที่มีความยืดหยุ่นในผิวหนัง ซึ่งทำให้หลอดเลือดเปราะบาง ส่งผลให้ผิวหย่อยยานและเกิดริ้วรอย
ขั้นตอนที่ 3 รู้จักผิวของตัวเอง
สังเกตว่าผิวของคุณเป็นเช่นไร เช่น เมื่อไรที่จะมีผิวแห้ง ผิวจะมันบริเวณไหน และจะเป็นสิวเมื่อไร ลองดูว่าผิวมีลักษณะเด่นอะไรบ้าง คนผิวแห้งมักจะมีรูขุมขนเล็กกว่า เป็นไปได้ว่าผิวหนังลอกเป็นหย่อมๆและสีผิวจะเป็นโทนเดียวกันหมด ส่วนคนผิวมันอาจมีผิวซีด และเป็นสิวบ่อยๆ รูขุมขนอาจใหญ่กว่า ขยายกว้างและอุดตันได้ และใบหน้าดูเป็นประกาย ส่วนคนผิวผสม หน้าผาก จมูก และคางจะมัน ส่วนแก้มอาจจะแห้งหรือมีสภาพปกติ ส่วนคนผิวปกติจะมีสภาพสีผิวที่ดูมีสุขภาพดีและสมดุล รูขุมขนเล็ก
ขั้นตอนที่ 4 "ทำดี" กับผิว
ดื่มน้ำวันละหนึ่งขวดใหญ่ ออกกำลังแบบไหนก็ได้ที่ทำให้คุณเหงื่อออกซึ่งจะช่วยขับสารพิษและทำให้คุณมีผิวเปล่งปลั่งขึ้น นอนพักมากๆ ปกป้องใบหน้าจากแสงแดด นวดหน้าด้วยตัวเอง และแน่นอนว่าเลิกสูบบุหรี่ เท่านี้ผิวของคุณก็สวยขึ้นได้ นี่ยังไม่นับว่าหัวใจและปอดก็แข็งแรงขึ้นด้วย เท่ากับคุณได้กำไร ทีนี้ก็ใช้เงินที่ประหยัดได้จากการรักษาผิวหน้ามาซื้อผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจะดีกว่าค่ะ

ผิวมีปัญหา..จะแก้อย่างไร>>  http://www.pooyingnaka.com/story/story.php?Category=beauty&No=569

ไดโนเสาร์พันธุ์ต่าง ๆ



ชื่อรูป : ไทแรนโนซอรัส (Tyrannosaurus rex)

คำอธิบายรูป : หรือเรียกสั้น ๆ ว่าทีเร็กซ์ (Trex) แปลว่า กิ้งก่า ทรราชเป็นไดโนเสาร์ประเภทกินเนื้อเป็นอาหาร มีความยาวประมาณ 48 ฟุต สูงประมาณ 20 ฟุต ลักษณะเป็นแบบฉบับของไดโนเสาร์ หัวโต ตัวใหญ่ขาหน้าเล็กและสั้น มีกรงเล็บ แหลมคมยาวถึง 8 นิ้ว มีน้ำหนักถึง 7 ตันครึ่ง เจ้ากิ่งก่ามีชีวิตได้ด้วยการกินไดโนเสาร์ที่ อ่อนแอกว่าเป็นอาหาร เช่น ไดโนเสาร์ที่มีชื่อว่า แองคีลอซอรัส (Ankylosaurus) ฉายยายักษ์ สวมเกาะเป็นไดโนเสาร์ที่มีเกาะแข็งหุ้มตัวตัวยาวประมาณ 15 ฟุต สูงไม่เกิน 4-5 ฟุต ตัวอ้วน ขาใหญ่ เดินงุ่มง่ามหลบหลีกศัตรูได้ช้าเป็นอาหารโปรดของเจ้าทีเร็กซ์ ดังนั้นจึงได้อีก ฉายาหนึ่งว่า จอมเพชฌฆาต




ชื่อรูป : อัลโลซอรัส (Allosaurus)

คำอธิบายรูป : ตัวนี้หน้าตาคล้าย ๆ กับ ทีเร็กซ์ เป็นไดโนเสาร์กินเนื้อขนาด ใหญ่ที่สุดมีขนาดยาวกว่า 33 ฟุต (10 เมตร) ขาหน้าเล็กสั้น หัวโต เขี้ยวใหญ่ได้ฉายาว่า จอมพราน ชอบล่าไดโนเสาร์อื่นเป็นอาหารโดยเฉพาะ อะแพททอซอรัส (Aapatosaaurus) เป็นอาหาร ที่กล่าวเช่นนี้เพราะอะแพททอซอรัสที่ขุดพบนั้นมีรอยเขี้ยวของ อัลโลซอรัส เต็ม ไปหมด

>>อ่านต่อที่นี่เลย ://www.pantown.com/group.php?display=photoalbum/viewalbum&id=6695&folder=album1&area=1

เคล็ดลับจัดการเงินออม ช่วงอายุ 35 ถึง 55 ปี

ผมขอนำเรื่องเคล็ดลับการจัดการเงินออมที่ติดค้างไว้มาเล่าต่อนะครับ ท่านคงจำได้ว่าเราได้แบ่งคนออกเป็น 3 กลุ่มอายุ ดังนี้

1. ช่วงอายุเริ่มทำงานถึง 35 ปี

2. ช่วงอายุ 35 ถึง 55 ปี

3. ช่วงอายุ 55 ปีขึ้นไป

                         ในตอนก่อนหน้านี้ ผมได้ปูพื้นไว้ว่า ท่านผู้อ่านที่อยู่ในวัยเริ่มทำงานจนถึงอายุ 35 ปี โดยทั่วไปจะเป็นช่วงที่ท่านมีรายได้ไม่มากนัก มีค่าใช้จ่ายสูงเมื่อเทียบกับรายได้ ทำให้การออมค่อนข้างลำบาก แต่ผมได้แนะนำไปว่า นอกจากส่วนที่ท่านเก็บออมกับกองทุนประกันสังคมแล้ว หากท่านสามารถเจียดเงินมาออมเพิ่มเติมได้อีกสัก 10% ของรายได้ ก็จะช่วยได้มาก เช่น ท่านที่มีเงินเดือนๆ ละ 20,000 บาท หากออมได้สักเดือนละ 2,000 บาท โดยเริ่มออมเมื่ออายุ 30 ปี และได้ผลตอบแทน 5% ต่อปี ท่านจะมีเงินเก็บประมาณ 1.5 ล้านบาทเมื่อเกษียณ (ที่อายุ 60 ปี) และหากนำเงินก้อนดังกล่าวไปลงทุนแล้วทยอยนำเงินต้น และดอกผลมาใช้ทุกเดือน ท่านจะมีเงิน “บำนาญ” ให้กับตัวเองเดือนละ 10,662 บาท ซึ่งเป็นเงินบำนาญส่วนเพิ่มนอกเหนือจากที่ท่านจะได้รับจากกองทุนประกันสังคม
ผมได้แนะนำด้วยว่า สำหรับท่านที่อยู่ในวัยเริ่มทำงานถึงอายุ 35 ปี ท่านมีระยะเวลาการออมนาน และมีความสามารถรับความเสี่ยงได้มาก จึงควรแบ่งพอร์ตเงินออมเป็น 20% ซื้อหน่วยลงทุนกองทุนที่ลงทุนในพันธบัตร และ 80% ซื้อหน่วยลงทุนกองทุนที่ลงทุนในหุ้น
คราวนี้เรามาพูดถึงคนที่อยู่ในวัย 35 ถึง 55 ปีบ้างนะครับ
รายได้ และค่าใช้จ่าย ช่วงอายุ 35 ถึง  55 ปี
               เมื่อเทียบกับวัยเริ่มทำงาน ท่านที่อยู่ในช่วงอายุ 35 ถึง  55 ปีจัดได้ว่าเป็นกลุ่มที่มีหน้าที่การงานมั่นคงมากขึ้น และมีรายได้มากขึ้น สำหรับท่านที่ครองตัวเป็นโสดจะพบว่า เมื่อเข้าวัยนี้ การจัดการเงินออมเริ่มง่ายขึ้นเพราะท่านมีรายได้มากขึ้นแต่ไม่มีภาระค่าใช้จ่ายมากนัก หากยังไม่มีบ้าน ท่านก็จะสามารถจะเริ่มผ่อนบ้านได้ในช่วงนี้เอง
                สำหรับท่านที่มีครอบครัว ถึงแม้ว่ารายได้โดยรวมของครอบครัวจะมากขึ้น เพราะมีคนสองคนช่วยกันทำงานหารายได้ แต่เมื่อมีบุตร ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการดูแลบุตรของท่านจะกลายเป็นรายจ่ายสำคัญของครอบครัว และเป็นรายจ่ายส่วนที่ต้องดูแลให้ดีครับ
เมื่อท่านเข้าสู่ช่วงปลายของวัยทำงาน คืออยู่ในช่วงอายุ 50ถึง  55 ปี รายได้จะยิ่งมากขึ้น ในขณะที่รายจ่ายมีสัดส่วนลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อบุตรของท่านจบการศึกษา และเริ่มทำงาน ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการศึกษาของบุตรก็หมดไป การออมยิ่งทำได้ง่ายขึ้น
อย่างไรก็ดี การรอคอยไปเก็บออมตอนใกล้เกษียณอาจจะสายเกินไป การออม เพื่อเกษียณจำเป็นต้องเริ่มทำตั้งแต่เริ่มต้นวัยทำงาน เพื่อให้เรามีเวลามากพอในการทำให้เงินงอกเงยครับ
สำหรับการจัดการเงินออมในวัยนี้ ผมแนะนำให้ท่านมีบัญชีเงินออมไม่ต่ำกว่า 4 บัญชี แยกออกจากกัน โดยเรียงลำดับความสำคัญจากมากไปน้อยดังนี้ครับ

1. บัญชีเงินสำรองไว้ใช้ยามฉุกเฉิน 3 ถึง  6 เท่าของเงินเดือน
ในช่วงที่ท่านยังเป็นโสด เรื่องบัญชีเงินสำรองนี้ก็สำคัญ แต่ยังไม่มากเท่าใด แต่เมื่อมีครอบครัวแล้ว การมีบัญชีเงินสำรองไม่ต่ำกว่า 3 ถึง  6 เท่าของเงินเดือนเป็นเรื่องสำคัญมากครับ
                      สาเหตุที่เราต้องมีบัญชีเงินสำรองก็เพราะว่า ในบางครั้งเราอาจจะมีเหตุจำเป็นต้องใช้เงิน ถึงแม้ว่าท่านผู้อ่านที่เป็นผู้ประกันตนจะได้รับความคุ้มครองจากกองทุนประกันสังคมในทุกจังหวะชีวิตที่เดือดร้อน ไม่ว่าจะเป็นการได้รับความคุ้มครองกรณี เจ็บป่วย คลอดบุตร สงเคราะห์บุตร หรือว่างงาน เป็นต้น ทำให้ไม่ต้องมีภาระทางการเงิน หรือช่วยแบ่งเบาภาระทางการเงินไปได้บ้าง แต่ในชีวิตคนเรามักจะมีเหตุจำเป็นที่ต้องใช้เงินอยู่บ้าง เช่น ค่าเบี้ยประกันรถยนต์ ค่าซ่อมรถ ค่าซ่อมบ้าน ฯลฯ เราจึงควรมีเงินสำรองไว้ใช้ยามฉุกเฉิน ผมขอแนะนำว่าให้เปิดบัญชีเงินฝากหรือบัญชีเงินออม แยกต่างหากอีก 1 บัญชี และ หยอดกระปุก สะสมไว้เป็นเงินสำรอง การมีเงินสำรองนี้ช่วยให้เรามีเงินรองรับค่าใช้จ่ายพิเศษต่างๆ ได้โดยที่ไม่ต้องกู้ยืมเงินใครมาใช้ และไม่ทำให้ครอบครัวต้องเดือดร้อนด้วยครับ
จำนวนเงินในบัญชีสำรองนี้จะมีมากน้อยขึ้นอยู่กับความมั่นคงทางการเงิน ท่านที่มีหน้าที่การงานมั่นคง (เช่น รับราชการ หรือเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจ) อาจจะสำรองไว้ประมาณ 2-3 เท่าของเงินเดือน ส่วนท่านที่ทำงานเอกชน หรือคาดว่ามีแนวโน้มอาจจะต้องเปลี่ยนงานในอนาคต และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ท่านที่มีภาระการผ่อนบ้านหรือผ่อนรถ ควรจะสำรองไว้ประมาณ 3 – 6 เท่าของเงินเดือน เพื่อให้มั่นใจว่าในช่วงที่ไม่ได้ทำงาน จะยังมีความสามารถในการผ่อนชำระได้อย่างต่อเนื่องครับ

2. บัญชีเงินออม เพื่อการศึกษาของบุตร
ตามที่ผมกล่าวไปแล้วว่า ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการดูแลบุตรนั้นเป็นรายจ่ายสำคัญของครอบครัว และท่านจำเป็นต้องดูแลรายจ่ายส่วนนี้ให้ดี นอกจากการมีบัญชีเงินสำรองแล้ว ท่านจึงควรมีอีกบัญชีหนึ่งที่เตรียมออมเงินไว้ เพื่อการศึกษาของบุตร เพื่อให้มั่นใจว่า ในช่วงที่ท่านอาจจะต้องออกจากงานหรือขาดรายได้ไปชั่วคราว ท่านจะยังสามารถดูแลค่าใช้จ่ายการศึกษาของบุตรได้อย่างต่อเนื่อง
                 สำหรับจำนวนเงินออมในบัญชีนั้น ท่านอาจจะต้องประเมินไว้ล่วงหน้าว่า ในแต่ละปี ท่านจะมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการศึกษาของบุตรเท่าใด ซึ่งค่าใช้จ่ายส่วนนี้ไม่ได้มีแค่ค่าเทอมเท่านั้น ยังมีเรื่องเครื่องแต่งกาย ค่าตำราเรียน และอุปกรณ์การเรียน ค่าขนม และในบางกรณีที่ต้องย้ายไปเรียนไกลบ้าน อาจจะต้องเตรียมค่าเช่าหอพักด้วย
(อ่านต่อฉบับพรุ่งนี้)

วันพฤหัสบดีที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2552

รวมภาพ ben 10


วันพุธที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ข้อคิดคำคม..... แม้เพียงประโยคเดียวก็เปลี่ยนชีวิตได้

1. จงฟังความรู้สึก ของผู้พูด..ไม่ใช่คำพูด
2. จุดที่ต่ำสุดของชีวิต ที่ทุกคนมีโอกาสประสบ เป็นได้ทั้งจุดจบ และบทเรียนที่ดี
3..มี 2 สองวิธีในการแสดงพละกำลังของคนเรา อย่างนึงคือ กดลง และอีกอย่างคือ ดึงขึ้น

สารเคมี...วายร้ายในที่ทำงาน

สารเคมี...วายร้ายในที่ทำงาน (Health&Cuisine)
ห้องทำงาน ซึ่งเปรียบเสมือนบ้านหลังที่สองของผู้คนในสังคมยุคนี้ ฉะนั้นสิ่งหนึ่งที่เราไม่อาจมองข้ามไปได้ ก็คือสารเคมีในที่ทำงาน ที่มาจากสภาพแวดล้อมภายในห้องทำงาน

เครื่องถ่ายเอกสาร

ก๊าซโอโซนที่เกิดขึ้นจากการอัดและปล่อยประจุไฟฟ้าที่ลูกกลิ้งกระดาษ และบางส่วนเกิดจากการปล่อยแสงเหนือม่วง ที่มาจากหลอดไฟพลังงานสูงของเครื่องถ่ายเอกสาร ซึ่งแสงเหนือม่วงจะทำให้ก๊าซออกซิเจนรวมกันเป็นโอโซนได้ง่ายขึ้น แต่ในสภาพปกติหรือในสำนักงานทั่วไป โอโซนจะสลายตัวเป็นออกซิเจนภายใน 2-3 นาที ซึ่งอัตราการสลายตัวจะขึ้นอยู่กับระยะเวลา อุณหภูมิ (อุณหภูมิสูงสลายตัวได้เร็วขึ้น) และการระบายอากาศในห้องนั้น
ผงหมึกที่ใช้ในเครื่องถ่ายเอกสารทั่วไปในปัจจุบัน ซึ่งเป็นระบบแห้ง เป็นหมึกประเภทผงคาร์บอนดำ 10% ผสมกับพลาสติกเรซิน ซึ่งมีอันตรายต่อสุขภาพ
นอกจากนั้น สิ่งที่อาจเป็นอันตรายของเครื่องถ่ายเอกสาร คือความร้อนจากการถ่ายเอกสารเป็นเวลานานในสถานที่ไม่มีการถ่ายเทอากาศ และเรื่องเสียงที่รบกวน เพราะเครื่องถ่ายเอกสารขนาดใหญ่อาจดังถึง 80 เดซิเบล
อาการ
ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อเนื้อเยื่ออ่อนต่างๆได้ มีอาการระคายคอ ไอ หายใจสั้น วิงเวียน และปวดศีรษะได้ เนื่องมาจากการสัมผัสก๊าซโอโซนนานๆ
ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อระบบหายใจ มีการไอและจาม และเป็นสาเหตุของภูมิแพ้ รวมทั้งอาจก่อมะเร็ง จากการสูดดมฝุ่นผงหมึกเป็นระยะเวลานาน
แสงเหนือม่วงเป็นอันตรายต่อตา การสัมผัสแสงจ้าเป็นเวลานาน ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการปวดตาและปวดศีรษะ
วิธีป้องกัน
ถ่ายเอกสารทุกครั้งควรปิดฝาครอบให้สนิท หากไม่สามารถปิดได้ควรหลีกเลี่ยงการมองที่กระจกต้นฉบับ
สวมถุงมือขณะเติมหรือเคลื่อนย้ายผงหมึก
ผงหมึกที่ใช้แล้วนำไปกำจัดลงในภาชนะปิดมิดชิด
มีการบำรุงรักษาและทำความสะอาดเครื่องถ่ายเอกสารเป็นประจำ
ไม่ควรตั้งเครื่องถ่ายเอกสารในห้องทำงาน ควรจัดแยกไว้ในที่เฉพาะ หรือไว้ที่มุมห้องไกลจากคนทำงาน และมีการระบายอากาศที่เหมาะสม อาจติดตั้งพัดลมดูดอากาศเฉพาะที่ในห้องถ่ายเอกสาร
สังเกตและเลือกใช้เครื่องถ่ายเอกสารที่มีแผ่นกรองประเภท Activated Carbon Filter เพื่อสลายโอโซนก่อนปล่อยออก จึงปลอดภัย
น้ำยาลบคำผิดและกาว
น้ำยาลบคำผิด และกาววิทยาศาสตร์ ถือเป็นสารระเหย เพราะมีทินเนอร์และสารประกอบอินทรีย์เคมีชนิดต่างๆ ประกอบอยู่ ได้แก่ สารโทลูอีน เบนซีน และสไตลีน ซึ่งมีกลิ่นพิเศษเฉพาะ และระเหยปะปนในอากาศ ได้ง่าย
อาการ
ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อตา ผิวหนัง และระบบทางเดินหายใจ รวมทั้งเกิดอาการวิงเวียน หน้ามืด มีผลกระทบต่อประสาทส่วนกลาง และเสียการทรงตัวได้ เมื่อสูดดมในระยะสั้น
ทำให้โครโมโซมในเม็ดเลือดผิดปกติจนถึงขั้นเป็นมะเร็งในเม็ดเลือด หญิงมีครรภ์อาจแท้งหรือลูกออกมาพิการได้ หากสูดดมติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน
หากมีการกลืนสารเหล่านี้เข้าไป และมีการสำลักร่วมด้วย ก่อให้เกิดโรคปอดอักเสบได้
วิธีป้องกัน หลีกเลี่ยงการสูดดม และจัดให้มีการระบายอากาศที่ดี

เปิดจุดแข็ง-จุดอ่อนของคน 12 ราศี

เปิดจุดแข็ง-จุดอ่อนของคน 12 ราศี (ประชาชาติธุรกิจ)
ฟอร์เวิร์ดเมล์ฉบับนี้ พรรคพวกเพื่อนฝูงที่หลงไหลเรื่องโชค ดวงชะตาส่งมาให้ประจำ เช่นเดียวกับเมล์ฉบับนี้อ่านแล้วตรงใช้ได้ เลยแบ่งปันมาให้แฟน ๆ อ่านดู

ความพอเพียง



ข้อคิดจากขงเบ้ง

1.ถ้าคุณคิดจะเป็นใหญ่ คุณก็จะได้เป็นใหญ่ ถ้าคุณคิดอยากเป็นอะไรคุณก็จะได้เป็นสิ่งนั้น
2. เพราะแสวงหา มิใช่เพราะรอคอย เพราะเชี่ยวชาญ มิใช่เพราะโอกาสเพราะสามารถ มิใช่เพราะโชคช่วยดังนี้แล้ว "ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน"
3. นกทำรังให้ดูไม้ ข้าเลือกนายให้ดูน้ำใจ
4. ผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือ ผู้ที่ทำตนให้เล็กที่สุด
5. ผู้ที่เล็กที่สุดก็จะกลายเป็นผู้ที่ใหญ่ที่สุด

6. ผู้ที่มีเกียรติ คือ ผู้ที่ให้เกียรติผู้อื่น
7. ถ้าสติไม่มา ปัญญาก็ไม่มี
8. ไม้คดใช้ทำขอเหล็กงอใช้ทำเคียว แต่ คนคดเคี้ยวใช้ทำอะไรไม่ได้เลย
9. เล่นหมากรุก อย่าเอาแต่บุกอย่างเดียว เดินหมากรุกยังต้องคิดเดินหมากชีวิต จะไม่คิดได้อย่างไร
10. เมื่อใครสักคนหนึ่ง ทำผิด ท่านอย่าเพิ่งตำหนิหรือต่อว่าเขาเพราะถ้าท่านเป็นเขาและตกอยู่ในสภาพแวดล้อมเช่นเดียวกับเขาท่านอาจจะตัดสินใจทำเช่นเดียวกับเขาก็ได้
11. การบริหารคือการทำงานให้สำเร็จโดยอาศัยมือผู้อื่น
12. ผู้ปกครองระดับธรรมดา ใช้ความสารมารถของตนอย่างเต็มที่
13. ผู้ปกครองระดับกลาง ใช้กำลังของคนอื่นอย่างเต็มที่
14. ผู้ปกครองระดับสูง ใช้ปัญญาของคนอื่นอย่างเต็มที่
15. อ่านคนออก บอกคนได้ ใช้คนเป็น
16. เมื่อนักการฑูตพูดว่า "ใช่ หรือ อาจจะ" เขามีความหมายว่า "อาจจะ"
17. เมื่อนักการฑูตพูดว่า "อาจจะ" เขามีความหมายว่า "ไม่"
18. เมื่อนักการฑูตพูดว่า "ไม่" เขาไม่ใช่นักการฑูตเพราะนักการฑูตที่ดีจะไม่ปฏิเสธใคร)
19. เมื่อสุภาพสตรีพูดว่า "ไม่" หล่อนมีความหมายว่า "อาจจะ"
20. เมื่อสุภาพสตรีพูดว่า "อาจจะ" หล่อนมีความหมายว่า "ใช่ หรือ ได้"
21. เมื่อสุภาพสตรีพูดว่า "ใช่ หรือ ได้" หล่อนไม่ใช่สุภาพสตรี.
22. สุภาพสตรีจะไม่ตอบรับใครง่าย ๆ
23. คิดทำการใหญ่ อย่าสนใจเรื่องเล็กน้อย
24. ตาสามารถมองเห็นสิ่งที่ไกลได้ แต่ไม่สามารถ มองเห็นคิ้วของตน
25. คนส่วนใหญ่ใส่ใจกับผลได้ระยะสั้นเท่านั้น แต่คนฉลาดอย่างแท้จริงจะมองไปยังอนาคต